Vinny Paz

Vinny Paz ชายผู้หวังเดินตามรอย มวยจตุรเทพ กลายเป็นแชมป์โลก 2 รุ่น 

Vinny Paz นักมวยสากลแชมป์โลก 2 รุ่น ที่สามารถครองตำแหน่งไว้ได้ 5 สมัย ในช่วงสมัยที่เขายังหนุ่มแน่นและฟิตที่สุด ก่อนที่เขาจะร้างสังเวียนไปนานกว่า 14 เดือน เพราะประสบอุบัติเหตุไม่คาดคิด และกลับมาโลดแล่นบนสังเวียนอีกครั้งพร้อมกับเหล็กที่ดามไว้จุดต่าง ๆ ทั่วตัว กลายเป็น นักมวยที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับนักมวยรุ่นหลัง ๆ ในเวลาต่อมา

ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปติดตามเรื่องราวชีวิตเกี่ยวกับชายคนนี้ นักมวยที่มีเหล็กดามกระดูกสันหลังและคอ

หลังยุคสมัยของ โจ เฟรเซียร์, จอร์จ โฟร์แมน และ มูฮัมหมัด อาลี กระแสมวยรุ่นเฮฟวี่เวตก็ค่อย ๆ จางหายไป ซึ่งในขณะเดียวกันก็เริ่มมีนักชกรุ่นน้ำหนักเบาโผล่ขึ้นมา 4 คน ให้หน้าติดตามชม โดยคอมวยในยุคนั้นเรียกพวกเขาว่าเป็น มวยจตุรเทพ ซึ่งประกอบด้วย โรแบร์โต้ ดูรัน,โทมัส เฮิร์น,มาร์วิน แฮคเลอร์ และ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด

การชกของพวกเขามักจะขายบัตรเกลี้ยงเสมอ นั่นจึงเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของมวยรุ่นน้ำหนักเบาเลยก็ว่าได้ ณ นาทีนั้น มันยากมากที่จะมีนักมวยคนใด สอดแทรกขยับขึ้นมายืนเทียบเคียงกับตำแหน่งจุตรเทพได้ และทั้ง 4 ก็กลายเป็น นักมวยที่สร้างแรงบันดาลใจ ของนักมวยรุ่นน้ำหนักเบา สำหรับใครที่หวังจะก้าวขึ้นไปอยู่จุดที่ยิ่งใหญ่ทั้งชื่อเสียงและตำแหน่งแชมป์

และยังทำเงินมหาศาลแบบที่มวยรุ่นน้ำหนักเบาไม่เคยทำได้มาก่อนอีกด้วย หนึ่งในเด็กหนุ่มที่จับตาดูกระแสของโลกหมัดมวยอย่างใกล้ชิดก็คือ วินนี่ ปาเซียนซ่า หรือ “วินนี่ ปาซ” ที่กำลังเดินสายแห่งแชมเปียนเหมือนกับไอดอลของเขา

โดยวินนี่สามารถเทิร์นโปรและขึ้นชกเป็นครั้งแรกในปี 1983 เส้นทางของเขาเรียกได้ว่าสดใสในระดับหนึ่งทีเดียว แม้จะไม่ใช่ดาวรุ่นพุ่งแรงระดับเป็นที่คาดหวังของวงการมวย แต่เขาก็เก็บชัยชนะมาเรื่อย ๆ จนเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นในยุคกลาง 80 ที่เหล่าจุตรเทพเริ่มโรยราลง โดยเขาถูกเรียกด้วยฉายา “ปาซมาเนี่ยน เดวิล” ล้อเลียนกับชื่อสัตว์ Tasmanian Devil

ที่เป็นสัตว์ที่มีช่วงกรามเเข็งที่สุด ในบรรดาสัตว์กินเนื้อขนาดเล็ก แน่นอนว่าฉายาของเขาบ่งบอกทุกอย่าง ปาซมาเนี่ยนเป็นมวยน้ำอดน้ำทนดี และบู๊แลกตลอดจนเป็นขวัญใจแฟนมวย แม้จะไม่ได้ชนะตลอดแต่การสู้จนหยดสุดท้าย ได้เลือดแทบทุกไฟต์ ไม่ว่าจะเลือดคนอื่นหรือเลือดตัวเอง ทำให้ชื่อเสียงของ ปาซมาเนี่ยน โด่งดังขึ้นมา

จนหลายคนเริ่มจับตามองเขามากขึ้น ด้วยการคว้าแชมป์ ไลท์เวต ในปี 1987 ก่อนจะพีกสุด ๆ ในช่วงปลายยุค 80s ที่เอาชนะ รอน อามันด์เซ่น และ กิลเบิร์ต เดเล่ คว้าแชมป์รุ่นไลท์ มิดเดิลเวต 2 สถาบันทั้ง WBA และ IBC

แต่ชีวิตของคนเราไม่แน่นอน แม้แต่เรื่องของความตาย ที่ไม่รู้จะมาเยือนเราเมื่อไหร่ ซึ่งมันได้มาเกิดขึ้นกับ Vinny Paz ในปี 1991 ในช่วงชีวิตที่ดีที่สุดของอาชีพนักมวยและกำลังไล่หลัง 4 จุตรเทพ ในแบบที่เขาอยากจะเดินตามรอย เขากลับประสบอุบัติทางรถยนต์อย่างรุนแรง ชนิดที่ว่าไปถึงโรงพยาบาลถึงมือหมอแล้ว

แต่สิ่งที่หมอตอบกลับมาคือ “ลืมเรื่องป้องกันแชมป์ไปได้เลย” เพราะหลังจากนี้เขามีไฟต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตรออยู่ นั่นคือการเอาชีวิตรอดและสู้กับโรคภัยไข้เจ็บที่แรงเกินกว่าที่ใครคาดไว้

เพราะอุบัติเหตุครั้งใหญ่ทำให้ต้องร้างเวทีไปนานถึง 14 เดือน

อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ Vinny Paz กระดูกสันหลังและกระดูกคอหัก ซึ่งเป็นจุดที่สำคัญของมนุษย์ เมื่อส่วนที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำหรับการควบคุมร่างกายบุบสลาย จึงทำให้ยากที่จะคาดเดาว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น เป็นเรื่องที่น่าสลด เพราะเขาอาจจะกลับมาชกมวยอีกไม่ได้ เขาจะกลับมาเป็นปกติหรือไม่ มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่จะเป็นผู้ตัดสิน

วินนี่ต้องอยู่ในสภาพอย่างคนพิการที่ร่างกายไม่สมบูรณ์ แม้หมอรักษาเขาอย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ไม่เหมือนเดิม เขาต้องใส่เหล็กประคองที่กระดูกสันหลังและคอ เพื่อให้ทรงตัวอยู่ได้ ส่วนเรื่องการกลับมาเดินได้หรือไม่นั้นแพทย์ผู้ดูแลอาการบอกว่า “ไม่น่าจะเป็นไปได้”

สำหรับคนที่เคยแข็งแกร่งและช่วยตัวเองมาได้ตลอดชีวิต เมื่อวันนึงต้องมาพบว่าร่างกายที่เคยมีทรุดโทรมหนัก จนถึงขั้นต้องนอนติดเตียงและต้องลุ้นปาฎิหาริย์ให้เกิดขึ้น นั่นคือสิ่งที่อยากที่จะทำใจยอมรับ วินนี่กำลังจะเดินขึ้นถึงยอดเขา แต่กลับถูกถีบลงมาและยังถูกเอาดินกลบจนมิด สิ่งเดียวที่จะทำให้เขาทะลุการถูกฝังขึ้นมาได้คือ พลังใจและความเชื่อมั่นเท่านั้น

“ทำไมผมจะไม่รู้ว่าผมกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากที่สุดในชีวิต คอของผมเกือบหัก และทำอะไรแทบไม่ได้ สิ่งเดียวที่ผมคิดได้คือต้องเสี่ยงที่จะสู้ต่อไป ผมต้องทอยลูกเต๋าแห่งโชคจะตา จะเสี่ยงแค่ไหนก็ต้องลองดู”

การนอนติดเตียงไปตลอดชีวิตก็ไม่ต่างจากการนอนรอความตาย นั่นคือสิ่งที่วินนี่จะสื่อ เขาใช้เวลานอนอยู่บนเตียงราว 3 เดือนและรู้สึกว่ายิ่งนอนสภาพจิตใจของเขาก็ยิ่งแย่ลง ดังนั้นเขาจึงทำในสิ่งที่หมอห้าม นั่นคือการลุกขึ้นมาและออกกำลังกายเท่าที่จะทำได้ แม้จะเสี่ยงถึงชีวิตก็ตาม เพราะถ้าหากเขาดูแลตัวเองไม่ดี เขาจะต้องกลายเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต

สิ่งที่เกิดขึ้นจากนี้คือเกมเดิมพัน ที่วินนี่เรียกมันว่า “เกมชีวิต” ถ้าพลาด โอกาสแก้ตัวจะไม่มีอีกเเล้ว และเขาจะจมลงบนเตียงกลายเป็นคนที่ขยับไปไหนไม่ได้อีกต่อไป

Vinny Paz

นักมวยที่สร้างแรงบันดาลใจ , “ห้ามยอมแพ้ เพราะชีวิตที่ไม่สู้ ไม่ต่างอะไรกับการไม่มีชีวิต” คือปรัชญาของ Vinny Paz

วินนี่เริ่มไม่กลัวตายหลังจากติดเตียงมา 3 เดือนเต็ม ๆ เขาเริ่มจากการโยนลูกบอลเด้งกับผนังห้องในโรงพยาบาล เพราะนั่นคือสิ่งที่จะทำให้ร่างกายเขาสดชื่นขึ้น อย่างน้อยก็ไม่ได้ใช้ส่วนที่เจ็บปวดเคลื่อนไหว และยังทำให้มีกำลังใจฮึกเหิมมากกว่าการนอนเฉย ๆ แผนการสำหรับเกมชีวิตของเขาคือ ต้องทำร้ายตัวเองก่อน แม้จะเจ็บอยู่บ้างก็ต้องทำ

เริ่มจากการเล่นกับลูกบอลเป็นอันดับแรก เขามีปรัชญาในใจคือ เขารู้ว่าชีวิตของเขามีปัญหาเกิดขึ้นทุกด้าน แต่สิ่งจะทำให้เขาผ่านไปได้ คือต้องห้ามยอมแพ้ เพราะชีวิตที่ไม่สู้ ก็ไม่ต่างอะไรกับไม่มีชีวิต นักมวยที่สร้างแรงบันดาลใจ เคยกล่าวสิ่งนี้ไว้กับ MenHealth

“วันหนึ่งขณะอยู่ตามลำพัง พ่อของผมออกไปทำงาน แม่ของผมไปทำงานที่ร้านของชำ ผมอยู่กับตัวเองและทบทวนว่ามันไม่ใช่เวลาที่ผมจะต้องมานอนเสียเวลาบนเตียงบัดซบนี่ ผมจะต้องลุกจากเตียง กลับไปที่ห้องใต้ดินที่บ้านของผม เล่นเวตแบบที่เคยทำ ตายเป็นตาย เพราะผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมานอนอะไรแบบนี้หรอก…”

วินนี่เริ่มพยุงตัวเองลงมาจากเตียงและเล่นเวตดูเป็นครั้งแรก เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่เจ็บปวดมากที่สุดในชีวิตของเขา จนถึงกับน้ำตาไหลออกมา เพราะมันเจ็บมากแบบไม่คาดคิด

“ผมไม่ไหว ผมออกมาจากตรงนั้นและนั่งพักที่เก้าอี้ แต่สายตาผมยังมองไปที่ดัมเบลนั้น และหลังจากนั้นผมตัดสินใจเดินกลับไปหามันอีกครั้ง เพื่อยกมันขึ้นมา…. นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมเป็น”

Vinny Paz ใช้เวลาช่วงพักฟื้นที่บ้านระหว่างที่แม่และพ่อของเขาออกไปทำงาน เป็นช่วงเวลาแอบออกกำลังกาย เพราะแม่เขาสั่งห้ามเด็ดขาดตามคำสั่งของหมอ แต่เธอไม่รู้เลยว่าลูกชายของเธอทำในสิ่งต้องห้ามและเเข็งแกร่งขึ้นทุกวัน ในสภาพผู้ป่วยติดเตียงที่เธอเห็น มีเบื้องหลังของร่างกายที่เเข็งแกร่งขึ้นภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว

“แม่ผมเจอเสื้อผ้าที่เปียกเหงื่อตอนที่กลับบ้าน เธอด่าผมว่านี่แกออกกำลังกายเหรอ? ผมบอกว่าเปล่า ไม่รู้เสื้อมันเปียกได้ยังไงเหมือนกัน”

วินนี่เล่าย้อนความหลังของการแอบสร้างปาฎิหาริย์เพียงลำพัง สุดท้ายเขาไม่อยากจะโกหกแม่อีกต่อไป วันหนึ่งแม่ของเขาเข้ามาหาในห้องและเขาบอกกับเธอตรงๆว่า “แม่ ผมอยากจะกลับมาเป็นนักมวยอีกครั้ง ไม่อย่างนั้นผมขอตายซะดีกว่า” แม่ของเขาห้ามไม่ให้เขาพูดคำนั้นอีกแต่วินนี่ ตอบกลับอย่างชัดเจนว่า

“ผมไม่พูดมันอีกก็ได้ แต่เดี๋ยวผมจะทำให้เห็นเลย”

จากนั้นเส้นทางการคัมเเบ็คที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ นักมวยที่มีเหล็กดามกระดูกสันหลังและคอ ก็เริ่มขึ้น

นักมวยที่มีเหล็กดามกระดูกสันหลังและคอ ที่พระเจ้าพร้อมช่วย

หลายคนที่รู้ว่าวินนี่เริ่มออกกำลังกายก็เริ่มห้ามปราม บางคนกล่าวว่าเขาเป็นแชมป์โลกมาแล้ว ไม่มีอะไรต้องพิสูจน์อีกแล้ว เขาควรรักษาเนื้อรักษาตัวกลับมาเป็นคนปกติให้ได้ก่อน ทว่าปรัชญาและความหวังที่เขาตั้งไว้มันเข้มข้นและชัดเจนอย่างที่สุด เป็นการตัดสินใจที่เสี่ยงตายแบบเต็ม ๆ เพราะเขาไม่ได้หวังแค่ยกน้ำหนักเพื่อกลับมาเดินได้ แต่เขาจะกลับมาเป็นนักมวย

Vinny Paz เริ่มยกเวต กลับมาออกกำลังกายเต็มรูปแบบ ชนิดที่ใครห้ามก็ไม่ฟัง เพราะเขารู้ตัวเองดีว่าความจริงนั้นใกล้เข้ามาทุกขณะ และสิ่งที่เหลือเชื่อก็เกิดขึ้น เขาสามารถถอดเหล็กประคองร่างกายออกได้ 100% และเขาสามารถประคองและทรงตัวได้หมดเหมือนกับที่เคยเป็นในอดีต ปาฎิหาริย์เกิดขึ้นจากการไม่ยอมแพ้

และทันทีที่แพทย์ระบุว่าเขากลับมาเป็นปกติ Vinny Paz ก็เลือกลงนวมเพื่อพิสูจน์ช่วงเวลาตลอด 13 เดือนแห่งความยากลำบากว่า เขาจะสามารถเอาชนะมันได้หรือไม่ โดยเชิญ เรย์ โอลิเวร่า นักชกรุ่นเดียวกันมาเพื่อลงนวม แต่ด้วยความสนิทสนมที่มีต่อกัน เรย์ไม่กล้าเอาจริงกับเขาเพราะกลัวว่าถ้าชกไปจัง ๆ วินนี่ อาจจะกลับมาเป็นผู้ป่วยติดเตียงอีกครั้ง

ซึ่งวินนี่ บอกว่าไม่อยากต่อยก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเขาจะทำให้เรย์ออกหมัดเอง การลงนวมผ่านไปอย่างเชื่องช้าในยกแรกก่อนที วินนี่ ปาซ จะเร่งเครื่องเข้ามาในยกที่ 2 และ 3 เขาไล่ชกเรย์ จนทำให้เรย์เริ่มโมโหและเอาจริงขึ้นมา ทว่าต่อให้เรย์เอาจริง เขากลับไม่สามารถทำคะแนนใส่ วินนี่ ได้ วินนี เป็นฝ่ายชนะและทุกคนรู้ว่า นักมวยที่มีเหล็กดามกระดูกสันหลังและคอ แชมป์โลกกลับมาเเล้ว

วินนี่เริ่มกลับมาชกจริงจังและเขาก็เอาชนะคู่ชกรวด 6 ไฟต์ในเวลาแค่ 2 ปี ทำให้ทางสมาคม IBO ได้พิจารณาเรื่องการชิงเข็มขัดเส้นเดิมที่เคยเป็นของวินนี่  กลับคืนมาด้วยการจัดโปรเเกรมให้พบกับ แดน เชอร์รี่ นักชกจากแคนาดา ซึ่งวินนี่ไม่ทำให้ผิดหวังน็อคเชอร์รีได้ในยกที่ 11 จากการชกทั้งหมด 15 ยก นั่นคือการคัมแบ็คที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

“ผมตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ ท้องเสียนิดหน่อย และแขนและหมัดของผมก็แทบจะไม่ไหวแล้วเมื่อชกกับ เเดน เชอร์รี่ แต่นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมด ผมรู้สึกดีที่สุดในชีวิต”

หลังจากนั้วินนี่กลับมาเป็น นักชกท็อปฟอร์ม ได้อีกครั้งหลังจากคว้าแชมป์ IBO และเขาก็ขยับมาเป็นแชมป์ในสถาบันที่ใหญ่ขึ้นด้วยการเอาชนะ โรแบร์โต้ ดูรัน หนึ่งในสี่จุตรเทพที่เขาบูชา แม้ว่าดูรันในเวลานั้นจะอายุมากเเล้ว แต่นั่นคือชัยชนะที่วินนีภาคภูมิใจที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นแชมป์แล้ว เขายังสามารถเอาชนะไอดอลของเขาได้อีกด้วย แถมยังเป็นการชนะแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ทั้งชิงแชมป์ และป้องกันแชมป์อีกต่างหาก

สปิริตนักสู้ที่ไม่เคยยอมแพ้โชคชะตา กลายเป็นการคัมแบ็คครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของประวัติศาสตร์มวย

แม้ นักมวยที่มีเหล็กดามกระดูกสันหลังและคอ จะบอกเสมอว่า “นี่คือบัญชาจากพระเจ้า” ที่ทำให้เขากลับมาได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การที่เขากล้าเดิมพันกับชีวิตที่มีแค่ครั้งเดียว ด้วยการลุกจากเตียงและมาทำในสิ่งที่คนทั้งโลกห้าม คือการเสี่ยงที่ทำให้เขาได้รับชัยชนะจากเกมชีวิตเกมนี้

“ไม่ว่าจะในแง่ของชีวิตและอาชีพหน้าที่การงาน คุณจำเป็นต้องอดทนนะ ชีวิตมันยากลำบากเสมอ อะไรที่ไม่คาดคิดมันก็เกิดขึ้นได้โดยไม่ทันได้เตรียมตัว แต่อย่าลืมว่าความหวังและความหมายของชีวิตสำหรับคุณคืออะไร สำหรับตัวผม ผมขอแค่กลับมาเป็นตัวเองที่ผมรักก็พอ และการจะทำอย่างนั้นได้คุณเองไม่สามารถหนีช่วงเวลาที่ยากลำบากพ้น”

“ถ้าคุณคิดว่าชีวิตมาถึงทางตันในการไล่ล่าความฝันเเล้ว ผมอยากแนะนำให้คุณอย่าเพิ่งล้มเลิกมัน สิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จง่ายที่สุดคือการไม่ถอดใจ เหมือนกับผมที่ผมชกมวยเพราะผมรักมวยและผมอยากทำจริง ๆ ผมไม่เคยคิดจะล้มเลิกความตั้งใจนั้น” นักมวยที่สร้างแรงบันดาลใจ กล่าว

ในขณะที่หลายคนหมดหวังว่าเขาจะกลับมาเดินได้ มีเพียงเขาเท่านั้นที่ค้านคำสั่งจากหมอในใจตัวเอง เขารับฟังแต่ไม่ยอมแพ้ และนำมาซึ่งการเป็น นักมวยที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับนักมวยรุ่นหลัง ขนาดคนที่เคยเดินไม่ได้ ติดเตียง ยังเคยเป็นแชมป์โลกถึง 5 ครั้ง ไม่มีเหตุผลอะไรที่คุณจะต้องล้มเลิกและยอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่

ขอบคุณข้อมูลจาก : mainstand

ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจ : โหลดเกมส์

อ่านบทความเพิ่มเติม => กำปั้นผู้ประสบความสำเร็จกวาดแชมป์มาแล้วแทบทุกสถาบัน