Superbon บัญชาเมฆ เปิดประวัติดาวเด่นประดับวงการ ONE Championship
Superbon บัญชาเมฆ ยอดนักสู้อันดับต้น ๆ ของโลก หลังจากจรดปากกาเซ็นสัญญากับ ONE Championship ก็ได้รับความสนใจอย่างมาก ด้วยชื่อเสียงของเขาใน วงการมวย รวมถึงเคยคว้าแชมป์มาหลายสนาม ทั้งในประเทศไทย มวยไทยอาชีพ มวยไทยสมัครเล่น และคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งนับว่า ซุปเปอร์บอน เป็นอัจฉริยะในด้านการต่อสู้มากที่สุดคนหนึ่ง ในยุคนี้ ซึ่งในความสำเร็จนั้นย่อมมีที่มาที่ไป โดยในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก เส้นทางที่ทำให้เขากลายเป็นดาวประดับฟ้า จนทุกวันนี้
ซุปเปอร์บอน ในอดีตรู้กันในสีเสื้อ ลูกเจ้าแม่สายวารี โดยเขามีชื่อเล่นว่า “บอน” ชื่อจริงของเขาก็คือ นายศุภชัย หมื่นสังข์ ปัจจุบันอายุ 29 ปี แล้ว เขามีพื้นเพเป็นคน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง โดยมีพี่น้องทั้งหมด 4 คน และเขาเป็นคนที่สาม
เจ้าบอน ในวัย 5 ขวบ ได้เริ่มทำความรู้จักกับมวยไทย จากบิดาผู้ที่ชื่อชอบ กีฬาชนิดนี้เป็นชีวิตจิตใจ จนถึงขึ้นเปิดค่ายมวยของตัวเอง ในชื่อ “ลูกเจ้าแม่สายวารี” ซึ่งที่นั่นก็มีเทรนเนอร์คนสำคัญ และเป็นบุตรบุญธรรมของบิดา นั่นก็คือ นายบุญธรรม สมพิศ
ซุปเปอร์บอน ร่ำเรียนวิชามวยอยู่ 1 ปี จึงได้ขึ้นชก และแพ้ติดต่อกันถึง 5 ครั้งด้วยกัน แต่ด้วยความที่เขาตั้งความหวังอยากจะทำให้พ่อภูมิใจ เขาจึงทุ่มเทฝึกฝนอย่างหนัก จนมีฟอร์มดีขึ้นเรื่อย ๆ มา และก็เริ่มมีชื่อเสียงขจรขจาย ขยายพื้นที่จากละแวกชุมชน ไปเป็นจังหวัด จากจังหวัดเป็นภาค และก้าวขึ้นมาสู่เวทีมวยมาตรฐานในเมืองหลวง เมื่อตอนอายุ 15 ปี
ด้านการศึกษา เจ้าบอน เรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดแหลมโตนด หลังจากนั้น ไปเรียนต่อมัธยมปลายที่โรงเรียนพัทลุง ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ก่อนจะศึกษาต่อปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต (RBAC) คณะบริหารธุรกิจ สาขาคอมพิวเตอร์ เขาจึงย้ายถิ่นฐานมาอยู่กรุงเทพฯ และซ้อมมวยที่ค่ายมวย ต.เฉลิมชัย ย่านสี่แยกเหม่งจ๋าย
สมัยก่อนศึกเพชรสุภาพรรณ ของ “เสี่ยบู้ เมืองเพชร” ประดิษฐ์ สฤษดิ์อภิรักษ์ โปรโมเตอร์ลุมพินี ได้รับการขนานนามว่าเป็นรายการที่ชุมนุมดาวรุ่งภูธรมากที่สุด และ ซุปเปอร์บอน ก็คือหนึ่งในช้างเผือกที่ได้รับการคัดเลือกให้ชกอยู่เป็นประจำ
โดยเขาพิสูจน์ความเก่งกาจ ด้วยการครองแชมป์ประเทศไทยรุ่นไลต์เวต 135 ปอนด์ และสามารถป้องกันแชมป์ได้หลายครั้ง หนึ่งในนั้นคือชัยชนะเหนือ “สิงห์ร้ายแดนขแมร์” สิงห์ดำ เกียรติหมู่ 9 มวยรุ่นพี่ที่มีดีกรีเป็นถึงยอดมวยไทยปี 2549 นอกจากนี้ยังเคยเป็นรองแชมป์มวยรอบอีซูซุครั้งที่ 22 และรองแชมป์มวยรอบโตโยต้ามาราธอนด้วย
ขณะที่ตลาดนักมวยใหญ่ในบ้านเราไม่เป็นที่นิยม ซุปเปอร์บอน จึงเริ่มห่างหายจากการชก เป็นขาลง จนเขามีทีท่าจะแขวนนวม และผันตัวไปเป็นเทรนเนอร์ร่วมกับพี่ชาย (นายคงศักดิ์) ที่บินลัดฟ้าไปเปิดยิมในประเทศออสเตรเลีย
จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ Superbon กลายเป็นดาวเด่นประดับฟ้า
แต่แล้วก็มีคนทาบทามให้เขา ให้เข้าร่วมชกใน รายการมวยไทยนานาชาติ ซึ่งก็เป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ในวัย 23 ปี ประกอบกับย้ายมาอยู่ค่าย “บัญชาเมฆ” ของยอดตำนาน ซุปเปอร์สตาร์นักชกไทยอย่าง “บัวขาว” จึงมีรายการติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายเขาได้เป็นแชมป์รายการคุนหลุนไฟต์ และ เอ็นฟิวชัน ที่มีชื่อเสียงเบอร์ต้น ๆ ในระดับโลก
เขาทำผลงานและการสร้างชื่อเสียงให้กับสยามประเทศมากมาย เขาจึงควรค่าแก่การได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติ “มวยไทยสมัครเล่นดีเด่น (ชาย)” จากวันมวยไทยแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ในปี 2561
หลังจากสำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี ซุปเปอร์บอน ได้เข้ารับราชการทหารต่อทันที จนปัจจุบันมียศสิบโท สังกัดกองสรรพาวุธ กรมทหารราบที่ 5 หลังจากค่ายบัญชาเมฆย้ายไปอยู่เชียงใหม่ ซุปเปอร์บอน จึงย้ายมาซ้อมอยู่ค่ายมวยไทยอะคาเดมี แถวคลองเตย แทน
การเซ็นสัญญาเพื่อเข้ามาร่วมศึกกับ วัน แชมเปียนชิพ ในครั้งนี้ จะเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญของ ซุปเปอร์บอน เพราะในรุ่นน้ำหนักเดียวกับเขา ล้วนมีแต่ยอดฝีมือตบเท้าเข้ามาอยู่กับ ONE มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ และล่าสุดนี้เอง ซุปเปอร์บอนก็ได้พิสูจน์ว่าเขาฝีมือเก่งกาจแค่ไหน ด้วยการโค่นโค่นเบอร์หนึ่งของคิกบ็อกซิ่งอย่าง จอร์จิโอ เปโตรเซียน ได้สำเร็จ
โค่นเบอร์หนึ่ง “ซุปเปอร์บอน” เตะก้านคอ “เปโตรเซียน” ล้มทั้งยืน คว้าแชมป์โลกคิกบ็อกซิ่งอย่างยิ่งใหญ่
และแล้วก็จบลงไปอย่างยิ่งใหญ่ ของการรอคอยกับศึก ONE: FIRST STRIKE เมื่อ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา บทสรุปของคู่เอกของรายการ “ซุปเปอร์บอน” ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการคิกบ็อกซิ่งระดับโลก ด้วยการโค่นนักชกที่ได้ชื่อว่าเก่งกาจที่สุดตลอดกาลอย่าง “The Doctor” จอร์จิโอ เปโตรเซียน ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ผงาดขึ้นเป็นราชันย์คิกบ็อกซิ่ง รุ่นเฟเธอร์เวต คนแรกของ ONE อย่างไร้ข้อกังขา
ซึ่งวันนี้เราได้นำบทสัมภาษณ์ที่ซุปเปอร์บอนก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ ONE Championship มาฝากกัน
ONE: มีอาการบาดเจ็บตรงไหนบ้างหรือเปล่า?
“ไม่มีอะไรมากครับ มีแค่รอยฟอกช้ำบนหน้า ซึ่งเป็นเพราะศีรษะเรามาชนกันครับ มันเป็นเหตุการณ์ปกติเมื่อมวยซ้ายมาเจอกับมวยขวา เวลาปะทะกันศีรษะจะชนกันครับ แต่ไม่ได้เจ็บอะไร”
ONE: คว้าแชมป์ได้สำเร็จสมกับที่รอคอยมานาน รู้สึกอย่างไรบ้าง?
“รู้สึกดีใจมากครับ พอใจกับผลงานตัวเองมากครับ เพราะเป็นเกมที่เราเตรียมมาอยู่แล้ว และผมก็เดินตามแผนที่เราเตรียมมาทุกอย่าง ไม่หลุดและไม่ได้พลาดตรงไหนเลยครับ และผลก็ออกมาตามที่ผมเคยพูดว่า ผมจะเอาชนะเขาได้ครับ”
ONE: แผนการที่ว่า มีการเตรียมอะไรมาบ้าง?
“เราเตรียมฝึกการเตะก้านคอมาเป็นพิเศษครับ จริง ๆ ยังมีอาวุธอีกหลายรูปแบบที่ผมตั้งใจจะเอามาใช้ แต่พอมีจังหวะได้ใช้ลูกเตะก้านคอและได้ผลทันที ก็เลยไม่ได้ใช้อาวุธอื่นที่เตรียมมาครับ”
ONE: ทำไมถึงคิดว่าลูกเตะก้านคอจะสามารถเล่นงาน “เปโตรเซียน” ได้
“เพราะผมมองเห็นช่องโหว่ของ เปโตรเซียน ครับ ที่ผ่านมาที่เขาชกกับคู่ต่อสู้คนอื่น ๆ เขามักจะดึงตัวหลบลูกเตะได้ แต่การ์ดเขาจะต่ำ ผมมองเห็นช่องตรงนี้ ก็เลยคิดว่าเราน่าจะเตะให้เร็วขึ้นในระยะประชิดเพื่อไม่ให้เขาหลบได้ ผมศึกษาเขามาก่อนหน้านี้และเห็นจุดอ่อนนี้มาตั้งแต่แรกก็เลยเตรียมลูกเตะก้านคอมาอย่างดีครับ”
ONE: ทำไมจึงตัดสินใจที่จะใช้ลูกเตะก้านคอในจังหวะนั้น?
“มันเป็นปฏิกิริยาอัตโนมัติตอนเราสู้ในระยะประชิดครับ ซึ่งมันเกิดจากที่เราซ้อมเป็นประจำจนร่างกายเคยชิน ตอนเตะออกไป ผมก็เห็นแล้วว่าต้องเข้าเป้า และน่าจะน็อกได้ และตอนที่เขาล้มลงไป ผมก็มั่นใจว่าผมชนะแล้ว ผมไม่คิดว่าเขาจะลุกขึ้นมาได้แน่นอน เพราะผมเห็นเขาหมดสติตั้ง แต่ยังไม่ลงถึงพื้นด้วยซ้ำ”
ONE: อย่างที่รู้กันดีว่า “เปโตรเซียน” ได้ชื่อว่าเป็นนักชกที่เก่งกาจตลอดกาล เมื่อได้ประมือกันจริง ๆ แล้ว คิดว่าเขาเก่งสมคำร่ำลือจริงไหม
“ถ้าถามว่าเก่งไหม เขาก็เก่งจริงครับ ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่เป็นอันดับหนึ่งมายาวนานขนาดนี้ และก็ไม่เคยแพ้ใครมานานมากแล้ว แต่ถ้าถามว่าเขาเก่งที่สุดไหม ผมไม่คิดว่าเขาเก่งที่สุดตั้งแต่แรกอยู่แล้ว เพราะว่าไม่มีนักกีฬาคนไหนที่เก่งเหนือนักกีฬาทุกคน”
“เขาเก่งจริงครับ แต่ผมมองเห็นจุดอ่อนและเตรียมแก้ทางมาอย่างดีแล้ว และอย่างที่ผมเคยพูดมาก่อนนี้ว่า ผมมั่นใจว่าเอาชนะเขาได้ครับ”
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : แทงบอล , ดูบอล123
อ่านเพิ่มเติม => Muay Thai vs Kickboxing