Muay Thai ศิลปะป้องกันตัว ช่วยลดน้ำหนัก เผาผลาญไขมันกระจาย
Muay Thai สำหรับใครที่ต้องการจะลดน้ำหนัก เพื่อที่จะกำจัดไขมันส่วนเกิน เรียกคืนรูปร่างที่มีความแข็งแรง คงจะเคยได้ยินถึง เทรนด์การออกกำลังกายที่กำลังมาแรงตอนนี้อย่างแน่นอน นั่นก็คือ การออกกำลังกายจากการใช้ศิลปะป้องกันตัวอย่าง ชกมวย ต่อยมวยลดน้ำหนัก ที่เป็นการประยุกต์เอา กีฬามวยไทย มรดกทางวัฒนธรรมของบรรพบุรุษมาใช้
มวยไทย นับว่าเป็น มรดกทางวัฒนธรรม ที่ได้ใช้ นวอาวุธ จากร่างกายทั้ง 9 ส่วน ได้แก่ สองหมัด สองเท้า สองเท่า สองศอก และหนึ่งศีรษะ รวมกันกลายเป็นอาวุธอานุภาพสูงในการต่อสู้ สมัยก่อนการฝึก มวยไทย ถูกสงวนไว้เฉพาะแก่ ชายฉกรรจ์ เพื่อใช้ต่อสู้หรือไว้รบในสงครามเท่านั้น ก่อนที่เวลาจะผ่านไปแล้วได้มีวิวัฒนาการมาเป็นกีฬาบนสังเวียนผ้าใบ ภายใต้กฎกติกาที่ชัดเจนขึ้น
ปัจจุบันนี้ การชกมวย ไม่ได้ถูกจำกัดไว้เฉพาะผู้ที่สนใจในศาสตร์การป้องกันตัวเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการที่จะ ลดน้ำหนัก อีกด้วย เพราะวิธีการชกมวย จะช่วยเผาผลาญแคลอรีจำนวนมาก ทั้งยังให้ความสนุกสนาน จึงกลายเป็นกีฬายอดนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างมาก
ซึ่งในบทความนี้เราจะมาช่วยตอบข้อสงสัยว่า การชกมวยไทยช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร และใครบ้างที่เหมาะสมกับกีฬานี้ สำหรับผู้กำลังสนใจลงเรียนมวยไทยอยู่ ก็สามารถอ่านบทความนี้เพื่อทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมได้เลย
ทำความรู้จักกับ Muay Thai กันก่อนว่าคืออะไร
มวยไทย เป็นกีฬาที่อยู่ร่วมในสังคมไทยมาช้านาน ตั้งแต่การแข่งขันมวยโบราณ หรือมวยคาดเชือก จนในปัจจุบันมีการสวมนวมระหว่างแข่งขัน นอกจากนี้ ยังมีการดัดแปลงและประยุกต์ศิลปะมวยไทย อย่างเช่น แม่ไม้ ลูกไม้ และการไหว้ครู เพื่อให้เข้ากับบริบททางสังคม และเผยแพร่สู่สายตาชาวโลก
นาฏมวยไทย คือ การแสดงที่นำความแข็งแกร่งและท่วงท่าที่สวยงามของ การออกอาวุธแบบมวยไทย มาผสมผสานกับท่วงทำนองการบรรเลงของดนตรีไทยหรือสากล ซึ่งผู้แสดงมักแต่งกายด้วยชุดมวยไทยประยุกต์ อย่างเสื้อกั๊กแขนกุดและโจงกระเบน โดยหยิบยกฉากสำคัญจากตำนานพื้นบ้าน วรรณกรรม หรือเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มาเล่าเรื่อง เช่น ฉากพรานบุญจับกินรี นอกจากนี้ ก่อนทำการแสดง ยังมีการไหว้ครู ซึ่งเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของการแข่งขันชกมวยไทยรวมอยู่ด้วย
ศิลปะมวยไทย ได้ปรากฎอยู่ในสื่อบันเทิง อย่างภาพยนตร์ไตรภาคชื่อดังเรื่อง องค์บาก ซึ่งภาคแรกถูกนำไปเปิดแสดงใน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตรอนโต และได้รับการยืนตบมือที่นานที่สุด (The Longest Standing Ovation) ในประวัติศาสตร์ 16 ปีของโปรแกรม Midnight Madness นอกจากนี้ ภาพยนตร์แอนิเมชันซึ่งให้ความเพลิดเพลินกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่างเรื่อง 9 ศาสตรา ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากท่วงท่าการเคลื่อนไหวและเอกลักษณ์ “นวอาวุธ” ของมวยไทย ยังได้ผลตอบรับในแง่บวกจากชาวต่างชาติอีกด้วย
เนื่องจากมวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ ที่ต้องเคลื่อนไหวทุกส่วนของร่างกาย และได้รับความนิยมจากทุกเพศทุกวัยไปทั่วโลก ดังนั้น ในปัจจุบันค่ายมวยและฟิตเนสหลายแหล่งจึงเริ่มมีคอร์สเรียน มวยไทยผู้หญิง หรือคลาสการต่อยมวยลดน้ำหนัก รวมไปถึง การนำท่าลูกไม้ หรือแม่ไม้มวยไทย มาใช้ในการเคลื่อนไหวร่างกาย เพื่อออกกำลังกาย เช่น คีตะมวยไทย และ Dance Boxing
การเรียนมวยไทย VS การลดน้ำหนักด้วยมวยไทย
ความแตกต่างระหว่าง การเรียนมวยไทย กับ การลดน้ำหนักด้วยมวยไทย คือ การเรียนมวยไทยเป็นการเน้นการฝึกมวยไทยเพื่อเพิ่มทักษะการป้องกันตัวและการโจมตีคู่ต่อสู้ ต้องมีการฝึกวิ่งหรือกระโดดเชือกเพื่อจับจังหวะและเพิ่มขีดจำกัดทางร่างกาย ร่วมกับการสู้ตัวต่อตัวกับผู้สอน
ส่วนการต่อยมวยลดน้ำหนักจะมุ่งเน้นการนำท่าทางของมวยไทยหรือจังหวะเท้า (Foot Work) มาใช้ในการออกกำลังกาย ซึ่งคอร์สลดน้ำหนักในแต่ละแห่งจะมีความแตกต่างกันออกไป เช่น การชกมวยประกอบเพลงอย่าง Boxing Dance หรือโปรแกรมออกกำลังกายที่มีทั้งการยกเวทหรือการทำบอดี้เวทควบคู่กับการฝึกมวยไทย เช่น การเตะกระสอบทรายหรือการเตะเป้าล่อ เป็นต้น
ดังนั้น จุดที่เหมือนกันของทั้งคู่ คือ การได้เคลื่อนไหวร่างกายทุกส่วน และฝึกสมาธิจากการต่อยหรือเตะ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ฝึกได้ผ่อนคลายความเครียด เสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และได้ร่างกายที่สวยงาม นอกจากนี้ หากเรียนในคลาสที่มีขนาดใหญ่ จะช่วยให้ได้พบปะผู้คน และได้เพื่อนใหม่อีกด้วย
ในปัจจุบันการ ต่อยมวยลดน้ำหนัก ไม่ได้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชาย เพียงอย่างเดียว แต่ผู้หญิงหลายคนเริ่มหาคอร์สเรียนมวยไทยผู้หญิงกันมากขึ้น เพราะมีความสนุกสนาน และช่วยให้สามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว โดยการออกกำลังกายด้วยมวยไทย นั้นสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 200-400 แคลอรี่เลยทีเดียว
การต่อยมวยแอโรบิก คีตะมวยไทย หรือ Boxing Dance คือ การนำเอาท่าทางการเคลื่อนไหวของแม่ไม้และลูกไม้มวยไทยมาผสมผสานกับการออกกำลังกายแบบแอโรบิก ที่เน้นการหายใจขณะออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายนำออกซิเจนไปช่วยเผาผลาญ โปรตีน คาร์โบไฮเดรตและไขมันส่วนเกิน
โดยการต่อยมวยแอโรบิกจะมุ่งเน้นที่ความต่อเนื่องมากกว่าความเข้มข้น และใช้ระยะเวลาอย่างน้อย 20-30 นาที จะมีประโยชน์ในการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและเสริมระบบการหายใจ สำหรับใครที่เบื่อการออกกำลังกายแอโรบิกแบบเดิม ๆ อย่างวิ่งหรือเต้นแล้ว การต่อยมวยแอโรบิกน่าจะเป็นตัวเลือกใหม่ที่คุณไม่ควรพลาด
การต่อยมวยแบบ HIIT หรือ High-Intensity Interval Training คือ การออกกำลังกายอย่างทุ่มเทแรงกายแรงใจในระยะเวลาสั้น และสลับกับการออกแบบเบากว่า โดยจะใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ซึ่งเป็นการเทรนที่หนักมาก เพื่อให้เกิดการเผาพลาญหลังออกกำลังกาย (Exercise Afterburn) ที่จะเกิดขึ้นติดต่อกันได้นานถึง 48 ชั่วโมง ถือเป็นวิธีการต่อยมวยลดน้ำหนักที่ให้ผลเร็วที่สุดก็ว่าได้ เหมาะกับคนที่ใจร้อน หรือคนวัยทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลาในการออกกำลังกายมากนัก
สิ่งที่ควรรู้ก่อนลดน้ำหนักด้วยมวยไทยและสิ่งที่จะได้รับหลังฝึกฝน
ในการลดน้ำหนักให้เห็นผล จำเป็นต้องอาศัยความต่อเนื่องของกิจกรรมที่ทำ รวมไปถึง ต้องมีระเบียบวินัยในตัวเอง เช่น ต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและคุมอาหารไปควบคู่กัน
ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการ ลดน้ำหนักด้วยการชกมวย คือ อย่างน้อยครั้งละ 30-60 นาที ซึ่งจำนวนความถี่ของวันที่ออกกำลังกายจะขึ้นอยู่กับรูปแบบการต่อยมวย โดยแบบแอโรบิกสามารถทำได้ทุกวัน แต่แบบ HIIT ควรทำไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนและซ่อมแซมตนเอง รวมถึงเพื่อไม่ให้เกิดความเครียดตามมา
ส่วนข้อควรระวัง ในการต่อยมวยลดน้ำหนัก เนื่องจากการต่อยมวยเป็นกีฬาที่มีการปะทะและการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรวดเร็ว ดังนั้น ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักด้วยมวยไทย จึงควรฝึกกับค่ายมวยที่มีครูสอน หรือฟิตเนส ที่มีเทรนเนอร์คอยดูแล ไม่ควรฝึกด้วยตนเอง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น รวมไปถึง ยังมีคนคอยช่วยจัดโปรแกรมหรือแนะนำการออกกำลังกายที่เหมาะสมให้อีกด้วย
การต่อยมวยจะทำให้ได้เคลื่อนไหวร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้า ช่วยให้ลดน้ำหนักและร่างกายกระชับ โดยที่สาว ๆ ไม่ต้องกังวลว่าแขนจะโตเป็นกล้ามปู นอกจากนี้ การต่อยมวยยังใช้กล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวเป็นอย่างมาก ในระหว่างที่ออกอาวุธ ซึ่งช่วยให้ได้หน้าท้องแบนราบและเห็นกล้ามท้องชัดเจนขึ้น
เนื่องจากการต่อยมวยจะฝึกให้สมองและร่างกายทำงานประสานกัน ไม่ว่าจะเป็นสายตา มือและเท้าในการชกหรือเตะเป้าล่อและกระสอบทราย ซึ่งจะช่วยพัฒนาให้ผู้เรียนมวยไทยมีความคล่องแคล่ว และมั่นใจในทุกอิริยาบถ ช่วยเสริมให้บุคลิกมีความสง่างามมากขึ้น
การต่อยมวยลดน้ำหนัก โดยเฉพาะแบบ HIIT เป็นการออกกำลังกายที่เข้มข้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดจำกัดทางร่างกายอย่างปลอดภัย เพราะเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายในทิศทางที่เป็นไปตามธรรมชาติ เพียงแค่เพิ่มความเร็วขึ้น ในการต่อยมวย ผู้ฝึกต้องจดจ่ออยู่กับการเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น การออกหมัดเพื่อต่อยกระสอบทรายหรือจังหวะการขยับเท้า (Foot work) ในการเคลื่อนที่ ดังนั้น การต่อยมวยจะช่วยเพิ่มสมาธิให้มากขึ้น
การต่อยมวยช่วยระบายความเครียด และความคับข้องใจที่ทุกคนพบเจอมา อย่างเช่น งานมีปัญหา หรือทะเลาะกับคุณแฟน นอกจากนี้ ในการออกกำลังกายจะช่วยหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ที่ทำให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย สดชื่น และกระปรี้กระเปร่า และในการเรียนมวยไทยผู้หญิงและผู้ชายจะได้ฝึกร่างกายในการใช้ศิลปะการต่อสู้ อย่างการออกหมัด การใช้ศอกหรือการเตะ รวมไปถึง ท่ายืนหรือการเคลื่อนไหวที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้สามารถเอาตัวรอดหรือป้องกันตัวในสถานการณ์คับขันได้
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : แทงบอลออนไลน์ , อนิเมะ
อ่านเพิ่มเติม => นักมวย MMA ที่รวยที่สุด