4 ทหารเสือ ยอดมวยยุคใหม่ แชมป์โลก WBC ที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ยุค 80

ประมุขสมามวยโลก อย่าง WBC ได้ยกย่อง 4 ทหารเสือ ยอดมวยยุคใหม่ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา, โรมัน กอนซาเลซ, ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น และ คาร์ลอส คูเอดราส เขาคือ 4 นักมวยรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต ยุคปัจจุบันว่าเป็น ยอดมวยที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้ 4 ทหารเสื้อยุค 80 อย่าง เลียวนาร์ด, แฮกเลอร์, ดูรัน และเฮิร์นส

แน่นอนว่า ยอดมวยแต่ละยุคสมัย ก็มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าพูดถึงเวทีของมวยสากลอาชีพโลก ความที่สุด และสุดยอดของมวยรุ่นกลาง ที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล ก็คงหนีไม่พ้น 4 ทหารเสือแห่งยุค 80

นั่นก็คือ  มาร์วิน แฮกเลอร์, โรเบอร์โต ดูรัน , โธมัส เฮิร์นส์ และ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด ที่กล่าวถึงมาทั้งหมด แฟนมวยโลกตัวจริง ต้องรู้จักกันดี พวกเขาเรียกว่าเป็น ตำนานระดับ “Hall of Fame”

The 4 Kings of Boxing - Hagler, Hearns, Leonard, Duran
The 4 Kings of Boxing – Hagler, Hearns, Leonard, Duran

เมาริซิโอ สุไลมาน ประธานสภามวยโลก (WBC) ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ในยุคปัจจุบันต้องยอมรับว่า 4 นักชกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวต อย่าง “เอล กัลโญ” ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราดา แชมป์สภามวยโลก (WBC) คนปัจจุบันชาวเม็กซิกัน, “ช็อกโกลาติโต” โรมัน กอนซาเลซ เจ้าของแชมป์สมาคมมวยโลก (WBA) ชาวนิการากัว, “เจ้าแหลม” ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกชาวไทย รวมถึง คาร์ลอส คูเอดราส อีกหนึ่งอดีตแชมป์โลกจากเม็กซิโก ทั้งหมดนี้ก็เป็นยอดมวยที่ยิ่งใหญ่แห่งยุค

4 ทหารเสือ ยอดมวยยุคใหม่

ตลอดเวลากว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมา ทั้ง 4 คนทำให้มวยรุ่น 115 ปอนด์ กลายเป็นสังเวียนหมัด ดุเดือด เข้มข้นที่สุด ในวงการมวยโลกยุคปัจจุบัน โดยพวกเขาผลัดกันขึ้นชกเพื่อชิงแชมป์ สร้างไฟต์ที่ยอดเยี่ยมให้แฟนมวยได้ชมกัน และแฟนมวยทุกคนก็อยากจะดูพวกเขาต่อสู้กันต่อไป

เรียกว่าทั้ง 4 ได้สร้างความยิ่งใหญ่เหมือน 4 ทหารเสือแห่งยุค 80 ทั้ง ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด, มาร์วิน แฮกเลอร์, โธมัส เฮิร์นส์ และ โรเบอร์โต ดูรัน เลยทีเดียว

 

ศรีสะเกษ"ชนะคะแนนกอนซาเลซคว้าเข็มขัดแชมป์โลก - โพสต์ทูเดย์ กีฬา

โรมัน กอนซาเลซ ถึงกับเลือดอาบเมื่อเจอกับ “เจ้าแหลม” ยอดนักชกชาวไทย 4 ทหารเสือ ยอดมวยยุคใหม่

นอกจากสร้างไฟต์ที่น่าประดับใจ ดุเดือน หมัดใจคนดู พวกเขายังสร้างความแตกต่างเพิ่มขึ้นมาอีก นั้นคือ ความเป็นคู่อริกัน ที่ต้องกลับมาชกล้างตากันใหม่ เหมือนยุคที่ ฮุมแบร์โต “ชิกิตา” กอนซาเลซ ดวลกับ ไมเคิล คาร์บาฮาล ที่มีการจัดศึกล้างตากันถึง 3 ไฟต์ ด้วยกัน โดยทั้ง 4 คนในยุคปัจจุบันยังมีองค์ประกอบ  และความหลากหลาย เป็นปัจจัยให้วงการมวย ดูน่าสนใจ ดูน่าติดตามอีกด้วย

 

ทั้ง 4 คนเคยผลัดกันขึ้นเวทีรวมแล้ว 9 ไฟต์ โดยเป็นการชิงเข็มขัดแชมป์โลก WBC จำนวน 7 ครั้ง ซึ่งทาง สภามวยโลก กำหนดให้ เอสตราดา ขึ้นชกล้างตากับ กอนซาเลซ ในวันที่ 13 มีนาคม 64 นี้ โดยที่ สภามวยโลก ได้ประกาศออกมาว่า สำหรับนักมวยที่ชนะในไฟต์นี้ จะต้องป้องกันแชมป์โดยพบกับ “เจ้าแหลม”​ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น อดีตแชมป์โลกชาวไทย เป็นไฟต์ต่อไป

ประธานสภามวยโลก ได้กล่าวถึง อดีตแชมป์โลกชาวไทย ว่า “ศรีสะเกษ เป็นนักชกที่มีความมุ่งมั่น และพร้อมจะออกไปชกนอกบ้านเสมอ เรียกว่าเป็นนักมวยที่ยิ่งใหญ่ ต่างจากแชมป์โลกคนไทยคนอื่นๆ ด้วยที่เขาไปชนะ กอนซาเลซ ได้ที่กรุงนิวยอร์ก แล้วยังไปชกเอาชนะน็อกอีกครั้งในการชกแก้มือที่ ลอสแอนเจลิส และยังเคยบุกไปชนะ เอสตราดา ที่สหรัฐอเมริกา ผมรู้ดีว่าเขาหวังเต็มที่ที่จะทวงแชมป์โลกกลับไปครองอีกครั้งให้ได้ เขาเป็นนักชกที่แข็งแกร่งจริงๆ “

4 ทหารเสือ ยอดมวยยุคใหม่

ทาง ทวิตเตอร์ของ สภามวยโลก ได้ทวิตภาพของ 4 ยอดนักชกในรุ่น 115 ปอนด์ โดยยกย่องให้เป็น “ราชานักชกรุ่นฟลายเวต” หรือ “Super Flyweight Kings” เลยทีเดียว

ความฝันสุดท้ายของ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น กับการชิงแชมป์โลกหนที่ 3

ไฟต์ที่สร้างความเจ็บแค้นให้ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่นมากที่สุด ไม่ใช่การพ่ายแพ้ต่อฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า เมื่อปี 2019 แต่เป็นการแพ้ต่อคาร์ลอส คูเอดราส เมื่อปี 2014

โหมโรง! ไฟต์หยุดโลก "ศรีสะเกษ-เอสตราด้า" ศึกรีแมตช์กำปั้นซูเปอร์ฟลาย

ณ ตอนช่วงเวลานั้น ศรีสะเกษเป็นแชมป์โลก WBC แต่ต้องบินไปป้องกันแชมป์โลกที่บ้านของคูเอดราสที่เม็กซิโก ดังนั้นจึงมีความเสียเปรียบอย่างมาก ทั้งเรื่องของเสียงเชียร์ และเรื่องการตัดสิน

การชกเริ่ม ศรีสะเกษเดินหน้าลุยแหลก ส่วนคูเอดราสใช้สไตล์ฮิตแอนด์รัน ชก 1-2 แล้วหนีออกวงนอก ช่วง 4 ยกแรก คูเอดราสดูจังหวะดีกว่านิดๆ แต่พอเข้ายก 5 ศรีสะเกษเริ่มเดินหน้าลุย และอัดคูเอดราสเด้งไปเด้งมา

ในยก 8 จังหวะที่ทั้งคู่หัวกระแทกกัน คูเอดราสมีเลือดออกที่เหนือคิ้ว ตามกฎของเม็กซิกันคือ ต้องยุติการชกทันที และนับคะแนนเฉพาะ 8 ยกที่ผ่านมาเท่านั้น ปรากฏว่าศรีสะเกษมีแต้มตามหลังอยู่ (77-75, 77-74 ,78-73) กรรมการจึงชูมือให้คูเอดราส ได้แชมป์โลกไปเลยแบบงง ๆ

ไฟต์นั้นสร้างความเจ็บแค้นให้ศรีสะเกษเป็นอย่างมาก เพราะเขากำลังรุกไล่ กำลังได้เปรียบอยู่แล้วแท้ ๆ และคูเอดราสก็หมดพลังแล้ว พร้อมโดนน็อกเต็มที่ แต่สุดท้ายมาเสียแชมป์ด้วยการ “ตัดจบ” ซะอย่างนั้น

จากวันที่แพ้มา ศรีสะเกษต้องรอคอยโอกาสถึง 3 ปีเต็ม ๆ กว่าจะได้ขึ้นชกชิงแชมป์โลกอีกครั้ง เรียกได้ว่า การแพ้คูเอดราสวันนั้น เกือบทำให้เขาหลุดวงโคจรจากเวทีมวยระดับโลกไปเลย

อย่างไรก็ตาม ทางค่ายนครหลวงโปรโมชั่น ได้เข้าไปอธิบายกับ WBC โดยชี้ว่า ศรีสะเกษ สมควรได้โอกาสแก้ตัวสักครั้ง เพราะในไฟต์เจอเอสตราด้าก็เห็นๆอยู่ว่าแพ้ไม่ขาด และที่ผ่านมา ตอนศรีสะเกษแย่งแชมป์จากโรมันมาได้ พอโรมันขอรีแมตช์ เขาก็ยอมทันที ดังนั้นเมื่อคราวนี้ศรีสะเกษเสียแชมป์ ฝั่ง WBC ก็ควรจะให้ให้โอกาสแก้ตัวบ้าง

หลังจากเกลี้ยกล่อมอยู่นาน ในที่สุด WBC ก็ตอบตกลง มีการแต่งตั้งศรีสะเกษเป็น Mandatory Challenger หรือผู้ท้าชิงภาคบังคับ โดยเอสตราด้าต้องรีแมตช์กับศรีสะเกษภายในปี 2020

แต่ปัญหาคือเมื่อเข้าสู่ปี 2020 เกิดวิกฤติโควิด-19 ทำให้ WBC ขอเปลี่ยนแปลง “การบังคับ” ออกไปก่อน กล่าวคือ ช่วงนั้นการเดินทางข้ามประเทศทำได้ยาก ศรีสะเกษจะเดินทางมาที่ทวีปอเมริกาเหนือก็ลำบาก นั่นทำให้ WBC อนุญาตให้เอสตราด้าไปชกกับคนอื่นได้ และเอสตราด้าก็เลยเลือกคาร์ลอส คูเอดราส โดยต่อยกันที่เม็กซิโก ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เอสตราด้าเอาชนะไปได้ตามคาด

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : เว็บดูบอลสดฟรี

อ่านเพิ่มเติม => นักมวยสากลอาชีพไทย