ฝึกกล้ามท้อง นักมวย

ฝึกกล้ามท้อง นักมวย ทำไมนักมวยไทยรับแรงกระแทกหน้าแข้งได้

ฝึกกล้ามท้อง นักมวย กล่าวได้ว่า มวยไทย คือศิลปะการต่อสู้แบบยืน ที่ดีที่สุดในโลก เพราะรูปแบบ การต่อสู้ที่สนุก เร้าใจ มีการใช้อาวุธได้ทุกส่วน ทั้ง หมัด เท้า เข่า ศอก และยังสามารถแพ้ชนะกันได้ทุกนาที แบบว่าลุ้นระทึกกันมาก ๆ

ดังนั้นแล้ว ช่วงลำตัวของนักมวย เรียกได้ว่าเป็นเป้าขนาดใหญ่ ที่นักสู้บนเวที ต่างพยายามหาเหยี่ยม โจมตี ใส่กัน เพื่อเอาชนะอีกฝ่ายในการชก นั่นจึงทำให้ กล้ามหน้าของนักมวยไทย และนักกีฬาประเภทอื่น ๆ มีความแตกต่างกัน

หากว่าคุณกำลังสงสัยว่า แล้วนักมวยไทย ทำไมถึงมีกล้ามหน้าท้องที่แข็งแกร่งดั่งกับแผ่นเหล็ก ที่สามารถรับแรงกระแทกของแข้ง ที่เคยมีการเปรียบเทียบว่า รุนแรงเหมือนกับไม้เบสบอสฟาด ทำไมนักมวยไทยถึงรับแรงรุนแรงได้ขนาดนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปหาคำตอบกัน

กล้ามท้อง จัดเป็นส่วนที่สำคัญ ในร่างกายนักชกมวยไทย เพราะนี่คือจุดปราการด่านหน้า ที่มีอวัยวะสำคัญอย่าง กระเพาะอาหาร, ตับ, ไต, ลำไส้เล็ก, ลำไส้ใหญ่ อยู่ด้านใน

นอกจากนี้ กล้ามท้อง ยังสัมพันธ์กับระบบหายใจ รวมถึงการเคลื่อนไหวร่างกาย และการทรงตัว อีกทั้ง บริเวณท้อง ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ในกีฬามวยไทย ที่ต้องรับแรงกระแทก จากพลังหมัด, ลูกเตะ, ลูกถีบ รวมถึงการแทงเข่า เสียบเข่า  ออกกำลัง กาย แบบ MMA

ยิ่งโดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน ที่มวยไทยอาชีพประเภท “เข่าแข็งแรง” คลุกตีวงในเก่ง จะมีโอกาสชนะมากกว่า มวยฝีมือ ที่รอดักจังหวะเตะ ต่อย นั่นทำให้ นักมวยไทย เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องโดนปะทะตรงส่วนท้องมากขึ้น

ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่า มวยไทยที่ชกในประเทศ ตามเวทีมาตรฐาน มีความแตกต่างกับ กีฬาการต่อสู้แบบอื่น ตรงที่ตัดสินผลแพ้ชนะ โดยดูจากทรงมวย ใครทำให้คู่ต่อสู้เสียอาการ มากกว่าจะสนใจว่าใครออกอาวุธเยอะกว่ากัน

นักมวยไทย จึงต้องจำเป็นต้องถูกฝึก ตั้งแต่อายุยังน้อย เพื่อให้มีกล้ามเนื้อท้องที่แข็งแรง ทนทาน พร้อมรับอาวุธเหล่านี้ และสามารถทำให้ตัวเองไม่เสียอาการ เพราะนั่นอาจหมายถึง ความพ่ายแพ้ ในการชกเลยก็เป็นได้ หากนักชกคนนั้นทนความรุนแรงของอาวุธมวยไทยไม่ได้

เพราะอาวุธของมวยไทยนั้นอันตราย นักมวยไทยจึงเตรียมพร้อมรับแรงกระแทก

นักมวยไทยต้องเปลี่ยนหน้าท้องเป็นแผ่นเหล็ก นักมวยส่วนใหญ่ถูกฝึกเรื่องการสร้างกล้ามท้อง ให้มีความทนทานตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่แล้ว ตอนเด็กเรายังไม่ค่อยมีแรง ระบบหายใจ อะไรยังไม่ค่อยดี ส่งผลให้เหนื่อย และอาจเกิดอาการจุกได้ หากโดนอาวุธบ่อย ๆ แต่ถ้า นักมวยคนนั้น มีกล้ามเนื้อท้องที่แข็งแรง เวลาโดนแรงปะทะก็จะไม่ยุบ แรงไม่หมด หายใจสะดวก สามารถผ่อนแรงได้

ซุปเปอร์เล็ก ม.รัตนบัณฑิต หรือ นายมนัสชัย เอี่ยมศิริ นักชกมวยไทยชื่อดัง เผยว่าเหตุผลที่เขาถูกฝึกกล้ามท้องมาตั้งแต่อายุยังน้อย สร้างซิกแพค แบบ นักมวย

ซุปเปอร์เล็ก ผ่านการชกมวยไทยมากกว่า 200 ไฟต์ และเคยไปต่อยกับนักมวยต่างชาติ ในศึก ONE Championship แต่เขากลับบอกว่า ตนเองแทบไม่เคยมีอาการจุก หรือเสียอาการเลย ยามถูกโจมตีเข้าช่วงท้อง นับตั้งแต่เริ่มชกอาชีพ ซึ่งก็เป็นผลทื่มาจากการฝึกฝนนี่เอง

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ นักมวยไทย ฝึกซ้อมกล้ามหน้าท้องกันอย่างไร ถึงได้มี กล้ามท้อง ที่แข็งแรงประหนึ่งกับแผ่นเหล็กกล้า เรื่องนี้ “ฮอต” พีรภัทร ศิริเรือง นักวิทยาศาสตร์การกีฬา แห่งค่ายมวย เพชรยินดี สามารถให้คำอธิบายได้ พร้อมกับเปรียบเทียบให้เห็น ความแตกต่างของ การฝึกกล้ามท้อง ระหว่างนักมวยไทย กับ นักเพาะกาย

การเทรนกล้ามท้องของนักมวยไทย กับ นักเพาะกาย มีความแตกต่างกัน อย่าง นักเพาะกาย จะเน้นไปที่การสร้างโทนท้องให้มีความสวยงาม เห็นกล้ามเนื้อ เส้นเลือดชัดเจน แต่มวยไทย กล้ามเนื้อจะเป็นลักษณะก้อนๆ ซึ่งเกิดจากการถูกต่อย และการเกร็งกล้ามท้องโดยไม่รู้ตัว

รูปแบบการเทรนไม่มีอะไรซับซ้อน ใช้การซิท อัพ และเสริมด้วยการ ตีท้อง ทุบท้อง เพื่อให้นักมวยได้ฝึกการเกร็ง การฝึกแบบนี้ช่วยให้เวลาเขาขึ้นไปเวที กล้ามเนื้อจะมีการเกร็งอย่างเป็นธรรมชาติ หายใจได้อย่างเป็นระบบ ถูกวิธี

ฝึกกล้ามท้อง นักมวย การเทรนกล้ามท้องของนักมวยไทย เขาฝึกแบบไหน

ปกติแล้ว นักมวยไทย จะมีการฝึกซ้อม เป็นประจำอย่างน้อบ 3 ชั่วโมงต่อวัน นอกเหนือจากนั้น จะเป็นการใช้เป้าตีท้อง หรือใช้กำปั้นต่อยท้อง เพื่อให้กล้ามท้องเคยชินและทนทานต่อการรับแรงกระแทกบ่อย ๆ จนเกิดความแข็งแกร่งขึ้น

การฝึกกล้ามท้อง อยู่ในทุกกระบวนการฝึก ตั้งแต่การซิทอัพ การหมุนตัว (Oblique Twists) การกระโดดเชือก (Skipping Rope) ไปจนถึงการฝึก ตีเข่า, ฝึกเตะ, ฝึกหลบ, ชกเป้า ที่ต่างช่วยเสริมสร้างให้ บริเวณหน้าท้อง และสีข้างแข็งแรง รวมถึงยังทำให้ บาลานซ์ร่างกายและการเคลื่อนไหวดีขึ้นอีกด้วย

หลายคนมักจะเห็นว่า นักมวยไทย หุ่นนักมวยไทย ไม่ได้มีรูปลักษณ์ที่เด่นชัด ไม่ได้มีกล้ามเนื้อที่สวยงามเหมือน นักเพาะกาย แต่ทว่ากลับมีความแข็งแรง ชนิดที่ แทงเข่าไม่ยุบ เตะ ต่อย ไม่สะทกสะท้าน และในทางตรงข้าม การที่นักมวยไทย มีกล้ามท้องที่ไม่ได้ขึ้นรูปสวยงาม ยังส่งผลดีต่อพวกเขาอีกด้วย

การที่นักมวยลีนมากเกินไป จนกล้ามเนื้อเด่นชัด ไม่ค่อยส่งผลดีต่อพวกเขา เพราะจะทำให้คู่ต่อสู้เห็นจุดที่โจมตีได้ง่าย โดยเฉพาะซี่โครงซี่สุดท้าย แม้จะเป็นจุดที่ต่อยยาก แต่ถ้านักมวยที่ชกตัดลำตัวเก่งๆ ก็สามารถโจมตีและชัตดาวน์ได้เลย เพราะตรงนี้เป็นจุดบอบบาง เหมือนกับลิ้นปี่ นักมวย vs นักกล้าม pantip

นักมวยที่มีไขมันนิด ๆ กลับดีเสียกว่า นักมวยที่กล้ามขึ้นรูปชัดเจน เพราะไขมันก็เปรียบเสมือนฉนวนป้องกัน สามารถรับแรงกระแทก ก่อนถึงกล้ามเนื้อ

กล้ามท้องดี มีเกราะป้องกันดี ก็นับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง

ดังนั้นแล้วจากที่กล่าวมาข้างต้น ผลพลอยได้จากการฝึกกล้ามท้อง ของนักมวยไทย ก็จะช่วยให้ นักมวยไทย มีระบบการหายใจที่ดี ส่งผลต่อการต่อสู้บนสังเวียน ทำให้มีพละกำลังมากมากกว่า และไม่หมดแรงไปง่ย ๆ ในช่วงท้ายเกม

นอกจากนั้น นักมวยไทยบางคนที่มีกล้ามหน้าท้องแข็งแรงมาก ก็ยังสามารถใช้จุดนี้ เอาชนะในกติกามวยไทย หากเขาสามารถยืนทนอาวุธของคู่ต่อสู้ได้ เกินสิบครั้ง อย่างไม่แสดงอาการ แล้วยังเลือกสวนกลับไปด้วยจังหวะโยนแข้ง เพียงครั้งเดียวจนคู่ต่อสู้เสียอาการ สถานการณ์ก็อาจจะพลิก ทำให้กลับกลับมาชนะได้ทันที

รถถัง จิตรเมืองนนท์, เสกสรร อ.ขวัญเมือง และ ยอดเหล็กเพชร อ.อัจฉริยะ คือ สามตัวอย่างของนักชกประเภทใช้ร่างกายลงทุน ด้วยการเปิดฉากให้คู่ชก เข้ามาโจมตีก่อน โดยไม่แสดงอาการเจ็บหรือจุก เพื่อให้เกิดราคาต่อรอง ไปทางฝ่ายตรงข้าม

ก่อนเลือกหาเหลี่ยม และช่องสวนกลับเอาคืน จนราคาต่อรอง และเกมการชก พลิกกลับมา ซึ่งแน่นอนว่าสไตล์ประเภทยอมเจ็บตัวเช่นนี้ หากสภาพร่างกายไม่ถึงจริง กล้ามท้องไม่ทนทานจริง ก็มีสิทธิ์เสียทรงได้ง่ายๆ

กล้ามท้อง จึงเป็นส่วนสำคัญที่ นักมวยไทย ต่างตระหนักเป็นอย่างดี แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง ก็เป็นเหมือนการทดสอบนักมวยด้วยว่า ใครฟิตซ้อม ดูแลตัวเอง มีระเบียบวินัย ดีกว่ากัน ยามอยู่บนเวที เพราะในมวยไทยอาชีพ “การออกอาวุธ” อาจช่วยให้คุณชนะ แต่การมี “ร่างกายแข็งแรง” จะช่วยให้คุณไม่แพ้

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : UFABET , หนังออนไลน์

อ่านเพิ่มเติม => ต่อยมวยลดน้ำหนัก