ไมค์ ไทสัน ประวัติ

ไมค์ ไทสัน ประวัติ ความเป็นมา มวยรุ่นใหญ่ ผู้เป็นเจ้าของฉายา “มฤตยูดำ”

ไมค์ ไทสัน ประวัติ คืออดีต นักมวยสากลอาชีพ ชาวอเมริกัน ผู้เป็นเจ้าของแชมป์โลก รุ่นเฮฟวีเวท 3 สถาบัน คนแรกของโลก ไมค์ ไทสัน หนัก มากกว่า 200 ปอนด์ ซึ่งเขาเป็นเจ้าของสถิติที่ดีที่สุดในเวลานี้ เป็นแชมป์โลกเฮฟวีเวทที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียง 20 ปี 4 เดือนกับ 22 วัน แบบที่ว่ายังไม่มีใครทำได้ แต่ทว่าชีวิตของ ไมค์ ไทสัน กลับมีจุดสูงสุด และลงสูงสุด ไปสลับมาจนเดาอนาคตไม่ถูก

ไมก์ ไทสัน มีชื่อจริงว่า ไมเคิล เจอราร์ด ไทสัน (Michael Gerard Tyson) เขาเกิดเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2509 ที่ย่านบราวน์ส์วิลล์สลัมใน บรุกลิน นครนิวยอร์ก ชีวิตของไทสันในวัยเด็กนั้น ถือว่าเลวร้ายมาก เพราะเขาเป็นเด็กที่มีนิสัยเกเร เป็นนักเลงหัวโจกในละแวกบ้าน ชอบมีเรื่องชกต่อยกับเด็กคนอื่นในละแวกบ้าน แถมมีนิสัยอาชญากรรม เขาเคยก่ออาชญากรรมทั่วไป เรียกได้ว่าครอบครัวก็ไม่สามาถ ที่จะรับมือกับความเกเรของเขาได้เลย

จนกระทั่ง คัส ดี’อมาโต เทรนเนอร์มวยเชื้อสายอิตาเลียน ได้มาพบกับ ไทสัน ได้เห็นแววความเกเรของไทสัน ที่ชอบมีเรื่องชกต่อยอยู่บ่อย ๆ ของเขา และก็ได้ฝึกสอน ไทสัน ให้รู้จักกับ กีฬามวยสากล อย่างแท้จริง ที่มีการชกบนเวที และมีกติกาที่ชัดเจน สอนทุกอย่าง ของการชักมวยสมัครเล่น ทั้งทักษะการหลบ ความไวในการออกหมัด การสวนกลับต่าง ๆ จนไทสันเริ่มติดในการชก ด้วยความที่ ดี’อมาโต เป็นครูมวย ซึ่งไทสันได้รักและนับถือ ดี’อมาโต เหมือนกับพ่อตัวเองเลย

ไมค์ ไทสัน ประวัติ เส้นทางมวยสากลอาชีพ และการเป็นแชมป์เปียนครั้งแรก

ตั้งแต่ ไมค์ ไทสัน เริ่มต้นชกมวยระดับมืออาชีพ โดยการชกของเขานั้น เป็นการน็อกเอาท์ คู่ต่อสู้ในยกแรก ถึง 12 ครั้งด้วยกัน จากไฟต์ทั้งหมด 19 ครั้ง ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2529 ไมค์ ไทสัน มีสถิติการชกชนะรวด ถึง 26 ครั้ง โดยชนะน็อก 24 ครั้ง

เขาได้ขึ้นชิงแชมป์โลกกับ เทรเวอร์ เบอร์บิก ที่เป็นแชมป์โลกของสภามวยโลก (WBC) รุ่นเฮฟวีเวท ในขณะนั้น ที่สังเวียนมวยที่โรงแรมฮิลตัน ในลาสเวกัส รัฐเนวาดา สำหรับ เบอร์บิค เขาเพิ่งได้แชมป์มาได้ 8 เดือนก่อน ด้วยการชนะคะแนน พิงก์ลอน โธมัส ไปแบบฉิวเฉียด ซึ่งในการชกระหว่างทั้งคู่ ไทสัน เอาชนะทีเคโอ เบอร์บิก ได้อย่างรวดเร็ว ภายในยก 2 เท่านั้น แถมตลอดการชก เบอร์บิก เป็นฝ่ายถูกไทสันไล่ถลุง จนโดนชกล้มไปถึง 2 ครั้ง

หลังจากแมตช์ครั้งนั้น ไมก์ ไทสัน จึงกลายเป็นแชมป์โลกเฮฟวีเวทคนใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อมกับทำสถิติเป็นแชมป์โลกเฮฟวีเวท ที่อายุน้อยที่สุดในโลก ด้วยวัยเพียงแค่ 20 ปี 4 เดือน ยังเป็นสถิติมาจนทุกวันนี้ ยังไม่มีใครทำสถิตินี้ได้ โดยไทสัน ทำลายสถิติเดิมของ ฟลอยด์ แพ็ตเตอร์สัน ที่เคยทำไว้ในวัย 21 ปี 10 เดือน สิ่งที่น่าเหลือเชื่อที่สุดก็คือ ทั้งสองคนมีครูมวยคนเดียวกัน คือ คัส ดี’อมาโต

หลังจากที่ ไมค์ ไทสัน กลายเป็นแชมป์ ทั่วโลก ก็เริ่มรู้จักเขา ในภาพลักษณ์ของนักชก ผู้มีความป่าเถื่อน รุนแรง กักขฬระ ผ่านการโปรโมทของ ดอน คิง โปรโมเตอร์อันดับหนึ่งของโลก นับได้ว่าไทสันกลายเป็นนักมวยอันดับหนึ่งของโลก และเป็นนักมวยคู่บารมีของดอน คิง อย่างแท้จริง การชกของไมค์ ไทสัน นั้นทุกคนรู้ดีว่า เขาสามารถส่งคู่ต่อสู้ลงไปกองได้แบบ นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ 

ด้วยเหตุนั้นการชกป้องกันแชมป์ของ ไมค์ ไทสัน  สามารถทำเงินให้กับ ดอน คิง ได้อย่างมหาศาล เนื่องจากเป็นแชมป์โลกเฮฟวีเวท 3 สถาบันคนแรกของโลก รวมทั้งการเอาชนะน็อก ไมเคิล สปิงก์ส์ อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นเหรียญทองรุ่นเฮฟวีเวทโอลิมปิคที่มอนทรีออล ที่หันมาชกมวยสากลอาชีพและทำสถิติไม่เคยแพ้ใคร หลายคนมองว่า สปิงก์ส์ อาจจจะเป็นคนที่ยัดเยียดความปราชัยให้กับ ไมค์ ไทสัน ได้ แต่ทว่า ผลการชกกลับกลายเป็น สปิงก์ส์ ที่เป็นฝ่ายแพ้น็อกไป เพียงยกแรกเท่านั้น

แต่การป้องกันตำแหน่งที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ไทสันพลาดท่าแพ้น็อกแก่ เจมส์ “บัตเตอร์” ดักลาส นักมวยโนเนม เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2533 อย่างไม่มีใครคาดคิด ในยกที่ 10 มีเสียงของหลาย ๆ คนมองว่ากรรมการนับเร็วเกินไปกว่าปกติ

จอมโหดนักฆ่าจากสังเวียนมวย สู่ความตกต่ำที่สุดในชีวิต อย่างหมดสภาพ 

หลังจากนั้นชีวิตของ ไมก์ ไทสัน ก็เริ่มมาถึงจุดตกต่ำ หลังจากถูกกล่าวโดย เดสิรี วอชิงตัน (Desiree Washington) นางงามชาวอเมริกา ว่าเธอถูก ไทสัน ข่มขืน โดยไทสันก็ได้ออกมาปฏิเสธ จนคดีถูกนำขึ้นศาลและไทสันก็ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1992 ถูกตัดสินโทษให้จำคุกเป็นเวลา 6 ปี แต่เนื่องด้วยไทสันมีความประพฤติตัวที่ดี ทำให้หลังจากถูกจำคุกเป็นเวลา 3 ปีไทสันก็ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำในปีค.ศ. 1995

หลังออกจากคุก เขาก็กลับมาขึ้นสังเวียนมวยอีกครั้ง ในปีค.ศ. 1996 และเขาก็สามารถได้คว้าเข็มขัดแชมป์โลก WBC จาก แฟรงค์ บรูโน (Frank Bruno) และคว้าแชมป์โลก WBA จาก บรูซ เซลดอน จากนั้นไทสันก็ถูกประกบคู่มวยกับ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์ (Evander Holyfield)

ในการชกครั้งนั้น ไทสัน ไม่สามารถทำอะไร โฮลีฟิลด์ ได้เลยและแพ้ TKO ไปในยกที่ 11 ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งที่สองของไทสัน

ในปีค.ศ. 1997 ไทสันได้มีโอกาสได้ชกล้างตากับ โฮลีฟิลด์ แต่ในการชกครั้งนี้ไทสันก็ได้ทำให้ทั้งโลกตะลึง เพราะในยกที่ 3 ไทสันได้เข้าคลุกวงในแล้วกัดไปที่หูของโฮลีฟิลด์จนเลือดออก จนกลายเป็นที่จดจำ  พฤติกรรมของเขาทำให้การแข่งขันต้องยุติลง และไทสันถูกปรับแพ้ดีคิว (Disqualifion) และถูกปรับเงินเป็นจำนวน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมโดนยึดใบอนุญาตชกมวยด้วย

สำหรับค่าตัวของทั้งคู่ในขณะนั้นถือว่าเป็นค่าตัวที่สูงสุดในวงการกีฬาโลกเลยทีเดียว โดยไทสันได้ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และโฮลีฟิลด์ได้ถึง 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ในปี พ.ศ. 2542 ไทสันติดคุกอีกครั้ง เพราะไปมีเรื่องชกต่อย กับเด็กวัยรุ่นข้างถนน ขี่มอเตอร์ไซค์มา 2 คน หลังเกิดอุบัติเหตุทางท้องถนน คราวนี้ไทสันติดคุกอยู่นาน 9 เดือน เมื่อออกจากคุกมา ไมค์ ไทสัน ก็ขึ้นชกทำฟอร์มอยู่หลายครั้ง ก่อนจะขึ้นชกกับ เลนน็อกซ์ ลูอิส แชมป์โลกชาวอังกฤษผู้ที่มีฟอร์มการชกอยู่ในระดับสุดยอดในเวลานั้น ผลการชกกลายเป้นว่าไทสันพ้ายแพ้ไปในยกที่ 8

นักมวยที่โด่งดัง ร่ำรวยด้วยเงินทอง กลับกลายเป็นบุคคลล้มละลาย 

1 ปี ถัดมาหลังจากแพ้ เลนน็อกซ์ ลูอิส ไทสัน ก็มีปัญหาทางการเงิน เขาถูกฟ้องร้องให้เป็นบุคคลล้มละลายในที่สุด จากเคยมีเงินทองจากการชกมวยมากมายถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีคฤหาสน์หลังใหญ่ มีเสือโคร่งเบงกอลเผือกเป็นสัตว์เลี้ยง กลายเป็นบุคคลที่มีแต่หนี้สิน ทั้งนี้เป็นเพราะไทสันเป็นคนที่ใช้จ่ายเงินไม่เป็น อีกทั้งยังมีแต่พฤติกรรม ชอบทะเลาะวิวาทกับผู้คน ประกอบกับได้เปลี่ยนผู้จัดการจาก ดอน คิง ในช่วงที่ตกต่ำเป็น แซลลี่ ฟิงเกอร์ ทำให้ไม่ได้รับค่าตัวมากมายเช่นเดิม ไม่ ค์ ไท สัน หมดตัว

ในช่วงที่ชีวิตตกต่ำสุดขีด ถึงกับมีข่าวลือว่าไทสันได้รับการชักชวนจาก เจนนา เจมสัน ให้ร่วมกันแสดงหนังโป๊ ว่ากันว่า ไทสันมีศักยภาพที่น่าจะไปได้ดีในอาชีพนี้ เนื่องจากมีการอ้างถึงรายงานทางการแพทย์ในระหว่างถูกจองจำว่า ขนาดองคชาตของ ไทสัน นั้นยาวถึง 14 นิ้ว อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำตัวของเจนนา เจมสัน และตัวไทสันเอง ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้

แม้ในช่วงชีวิตย่ำแย่ ไทสันก็ยังมีข่าวอาชญากรรม ไทสันเคยถูกตำรวจจับในข้อหาว่ามียาเสพย์ติดประเภทโคเคนไว้ในครอบครอง

ต่อมา ไมค์ไทสัน ล่าสุด ก็ชกมวยครั้งสุดท้ายเพื่อหาทางปลดหนี้ แต่ก็แพ้อาร์ทีดี เควิน แม็กไบรด์ นักมวยผิวขาวชาวไอริช ไปในยกที่ 6 เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2548 และไม่ได้กลับขึ้นชกมวยเป็นเวลาหลายปี

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : แทงบอล , ดูบอล123

อ่านเพิ่มเติม =>