แซมโบ้ (Sambo)

แซมโบ้ (Sambo) ศิลปะการต่อสู้ เคล็ดลับไร้เทียมทานของ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ

แซมโบ้ (Sambo) การใช้ความรุนแรง เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ เราไม่ควรใช้ความรุนแรงเป็นทางแก้ไขปัญา เพราะนอกจากจะทำให้ได้รับบาดเจ็บอย่างไม่ควรที่จะได้รับแล้ว อาจเสียทรัพย์สินหรืออาจโดนดำเนินคดีทางกฎหมายได้ แต่การเอาตัวรอดจากสถานการณ์คับขันต่างหากคือสิ่งที่เราควรให้ความสำคัญ ซึ่งวิธีการเอาตัวรอด จะมีอะไรไปได้นอกจาก การเรียนรู้ศิลปะป้องกันตัวเอาไว้ เพื่อเป็นวิชาความรู้เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยง

วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับศิลปะการต่อสู้แขนงหนึ่ง ที่เป็นการใช้กำลังกายแบบมวยปล้ำ และมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศรัซเสีย ที่ไม่ค่อยมีใครได้ยินชื่อหรือรู้จักมากนัก อาจโด่งดังในต่างประเทศ แต่สำหรับในประเทศไทย อาจจะยังมีคนที่ไม่รู้จักอีกมาก ซึ่งเราก็ได้โอกาสพาทุกคนไปดูกันว่า ศิลปะการป้องกันตัวประเภทนี้มีประวันความเป็นมาอย่างไร และมีรูปแบบการต่อสู้แบบไหนบ้าง

ก่อนที่เราจะไปลงลึกถึงเรื่องของการต่อสู้แบบมือเปล่า อย่างที่ทราบกันดีว่า การต่อสู้แบบผสมผสาน หรือ MMA กำลังกลายเป็นที่น่าสนใจมาก และปัจจุบันก็มีรายการถ่ายทอดสดมวย เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะ อัลติเมต ไฟติ้ง แชมเปียนชิพ (UFC) ทางผู้จัดฝั่งอเมริกา หรือจะเป็น วัน แชมเปียนชิพ จากผู้จัดฝั่งเอเชีย

ถ้าใครเคยดูหรือติดตาม วงการ MMA บ่อย ๆ อาจได้รู้จักการต่อสู้ในแบบฉบับของ “แซมโบ้” (Sambo) ที่เป็นสไตล์การต่อสู้ของนักสู้มวยกรงคนหนึ่งที่โด่งดังมาก ชายผู้ที่ไม่เคยแพ้ ด้วยสถิติชนะ 28 ครั้ง ติดต่อกัน อย่าง คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ นักสู้ MMA UFC จากแดนหมีขาว ซึ่งเขาใช้เทคนิคแซมโบ้ เนี่ยแหละในการกำราบคู่ต่อสู้

แซมโบ้ (Sambo)

แซมโบ้ ศิลปะการป้องกันตัวจากประเทศรัสเซีย

หากพูดถึงการต่อสู้แบบ “แซมโบ้” หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักมันเท่าไหร่ แซมโบ้ เป็นศิลปะการต่อสู้ของประเทศรัสเซีย มันคือ ศิลปะการป้องกันตัวแบบมือเปล่า

ในภาษารัสเซีย คำว่า “แซมโบ้”  มีความหมายว่า “การป้องกันตัวโดยไม่ใช่อาวุธ” ซึ่งมันถูกฝึกสอนและพัฒนามาจากกองกำลังของโซเวียตหลังการปฏิวัติในปี 1917

เหล่ากองทัพแดงได้ฝึกฝนทหารของพวกเขา ให้มีพื้นฐานมาจากยูโด และมวยปล้ำ มีความนิยมเป็นอย่างมากในรัสเซีย, มองโกเลีย, จอร์เจีย และอาเซอร์ไบจาน

อาจกล่าวได้ว่า ศิลปะการต่อสู้แบบแซมโบ้ ไม่ใช่สิ่งใหม่ ในแวดวงศิลปะป้องกันตัว เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการจัดการแข่งขันในมหกรรมกีฬาให้เห็นอยู่ ไม่ใช่น้อบ เช่น เอเชียนเกมส์ 2018 ที่ผ่านพ้นไป ที่ประเทศอินโดนีเซีย ก็มีการแข่งขันชิงเหรียญแซมโบ้ ซึ่งก็มีนักกีฬาจากประเทศไทยลงทำการแข่งขันด้วย

แซมโบ้ คือเทคนิคขึ้นพื้นฐานของ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ มาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งก็ไม่แปลกใจเพราะเขาคืออดีตแชมป์โลกแซมโบ้มาก่อนถึง 2 รุ่น รวมถึงเป็นเจ้าของแชมป์แซมโบ้ของประเทศรัสเซีย ก่อนที่จะมุ่งหน้าเข้าสู่วงการ MMA ในเวที UFC

แม้จะมีการวิพากย์วิจารณืมาจากหลายเสียงว่า การต่อสู้แบบแซมโบ้นั้น ค่อนข้าง น่าเบื่อ แต่ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ ก็เหมือนตัวแทนของแซมโบ้ ที่พิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่า สไตล์การต่อสุ้นี้มีดีเพียงใด

ในช่วงที่มีกรถกเถียงกันว่า ศิลปะการป้องกันตัว หรือการต่อสู้แบบผสม MMA ศาสตร์แขนงไหนที่มีความอันตรายและแข็งแกร่งมากที่สุด อย่าง บราซิเลียน ยูยิตสู, มวยไทย, มวยปล้ำ รวมไปถึงแซมโบ้ “คาบิบ” และคุณพ่อของเขาเคยกล่าวทำนองเดียวกันว่า การที่จะตอบคำถามนี้ได้ ก็คือการขึ้นไปต่อสู้บนสังเวียน และเอาชนะคู่แข่งให้ได้ด้วยเทคนิคนั้น ๆ นั่นแหละคือสิ่งที่จะพิสูจน์ว่าศาสตร์แขนงไหนเจ๋งสุด

ซึ่ง คาบิบ ก็ได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกเห็นกับตาว่า แซมโบ้ เป็นศาสตร์การต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม ยามที่เขาขึ้นสังเวียน หากนับเฉพาะบนเวที UFC ยอดนักสู้จากแดนหมีขาวรายนี้ยัง “ไร้พ่าย” ไม่เคยปราชัยให้กับผู้ใดด้วยสถิติ 28-0 ครองเข็มขัดแชมป์โลกอย่างไรเทียมทาน

ไม่ใช่แค่เฉพาะใน MMA เท่านั้น แต่ “ซามบะ” ศิลปะป้องกันตัวแขนงนี้ยังเป็นสไตล์การต่อสู้ประจำตัวของตัวละครอย่าง “จอห์น วิค” ที่นำแสดงโดย คีอานู รีฟส์ ก็ใช้เทคนิคการต่อสู้ในแบบฉบับ “ซามบะ” ไล่ปราบศัตรูที่ตามไล่ฆ่าเขามาโดยตลอด 3 ภาคที่ผ่านมาและจะยังมีต่อไปยังภาคที่ 4

ในหลาย ๆ แอ็คชั่นจากภาพยนต์ จอห์น วิค เราจะได้เห็นเทคนิคการต่อสู้ “แซมโบ้” ที่พระเอกนำมาใช้ปราบคู่ต่อสู้ในแบบฉบับของตัวละครที่น่าตื่นเต้น นำมาปรับใช้ในการถ่ายทำได้อย่างยอดเยี่ยมไร้ที่ติ

และตัวของนักแสดงนำอย่าง คีอานู รีฟส์ ต้องเข้าคอร์สร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้หลากหลายแขนง โดยเฉพาะยูยิตสู และแซมโบ้ เพื่อนำมาใช้ในการแสดงเลยทีเดียว แม้ว่าจะดูเชื่องช้าและไม่รุนแรงแต่ได้ประสิทธิภาพ

แม้ว่าใครก็ตามจะกล่าวว่า “แซมโบ้” คือศิลปะการต่อสู้ที่อาจจะดู “น่าเบื่อ” แต่ถ้าคนที่นำมาใช้มันได้คล่องและเข้าใจมันศาสตร์แขนงนี้อย่างลึกซึ้ง ก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ

แซมโบ้ (Sambo)

แซมโบ้ (Sambo) มีความหมายว่าอย่างไร ความเป็นมา จุดกำเนิดของแซมโบ้

เมื่อเห็นกีฬาที่ชื่อว่า แซมโบ (Sambo) คงเป็นกีฬาที่มีคนรู้จักอยู่น้อย แต่ในทางตรงกับข้ามซามบะเป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในรัสเซีย ในบางครั้งจึงเรียกว่า รัสเซียน แซมโบ้ (Russian Sambo)

รัสเซียน แซมโบ (Russian Sambo) เป็นศิลปะการต่อสู้ที่ได้รับพัฒนาขึ้นในสหภาพโซเวียต ซามบะเป็นการต่อสู้ที่ผสมผสานเอาวิธีต่อสู้แขนงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยูโด, มวยปล้ำหรือยิวยิตสู ในลักษณะของการทุ่ม การขว้าง แม้กระทั่งการยอมจำนน โดยใช้เทคนิคการต่อสู้ที่เน้นการยืน เช่น การเตะ, การเตะเข่าและศอก ซึ่งซามบะนั้น ก็ถูกนำไปใช้เพื่อฝึกฝนทหารในกองทัพ เพื่อใช้ในการยุติการต่อสู้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

คำว่า “Sambo” นั้น มาจากตัวย่อของคำภาษารัสเซียที่ว่า “SAMozashchita Bez Oruzhiya” ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมในบางครั้ง คำนี้มักปรากฏให้เห็นในกองทัพ Sambo มีความหมายว่า “การป้องกันตัวโดยปราศจากอาวุธ” รูปแบบการต่อสู้นี้ จึงถูกเรียกง่าย ๆ ว่า “แซมโบ” (Sambo)

หนึ่งในสามคนของผู้คิดค้น คือ วิคตอร์ สปีรีโดนอฟ เขาเป็นทหารผ่านศึกในสงครามโลกครั้งที่ 1 และมีความรู้ความสามารถอย่างล้ำเลิศในเรื่องของมวยปล้ำ รวมถึงศิลปะการต่อสู้อื่น ๆ เช่น ยิวยิตสู เขาทำงานร่วมกับเรด อาร์มี่ ในฐานะผู้สอน และครูฝึกสอนในศูนย์ฝึกอบรมทางกายภาพของผู้แทนกรมการปกครองภายใน (NKVD)

เนื่องจากอาการบาดเจ็บที่แขนของเขาในสงครามโลกครั้งที่ 1 สปีรีโดนอฟจึงมุ่งเน้นการสอนไปที่เทคนิคที่เขาสามารถถ่ายทอดได้ ซึ่งจะเน้นการเคลื่อนไหวมากกว่าสร้างความแข็งแกร่ง เป้าหมายของสปีรีโดนอฟ คือการรวบรวมแง่มุมต่าง ๆ ของการต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพเข้ามาอยู่ด้วยกันให้มากที่สุด กลายเป็นรูปแบบการต่อสู้แบบใหม่ที่เป็นสไตล์ของเขา สปีรีโดนอฟได้พัฒนาการต่อสู้ที่เรียกว่า “Samoz” ซึ่งผู้ฝึกที่อ่อนแอหรือบาดเจ็บก็สามารถฝึกฝนได้เช่นกัน

ในขณะที่สปีรีโดนอฟ กำลังปรับปรุงการต่อสู้ของเขา ก็ได้พบกับ วาซีลี โอเชปคอฟ ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ของยูโด ทั้งคู่ได้ร่วมกันพัฒนาระบบการต่อสู้ด้วยมือร่วมกัน จนได้รูปแบบการต่อสู้แบบใหม่ที่เรียกว่า “แซมโบ้” (Sambo) แต่เนื่องด้วยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่าง สหภาพโซเวียต และญี่ปุ่นกำลังเพิ่มมากขึ้น และด้วยรูปแบบการต่อสู้แบบแซมโบ้ มีเทคนิคการต่อสู้แบบญี่ปุ่นผสมอยู่ ทำให้โอเชปคอฟ ถูกสงสัยว่าเป็นสายลับญี่ปุ่นไปด้วย

ช่วงเวลาที่สปีรีโดนอฟและโอเชปคอฟ กำลังคิดหาทางออก อะนาโตลี ฮาร์ลัมปีเยฟ ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้วยการบรรยายประวัติของการต่อสู้แบบแซมโบ้นี้ ด้วยการเน้นว่าต้นกำเนิดของแซมโบ้นั้นคือ สไตล์ของรัสเซีย จนในปี 1938 แซมโบ้ได้รับการประกาศให้เป็นศิลปะการต่อสู้แห่งมาตุภูมิ โดยคณะกรรมการกีฬาแห่งรัฐ และได้กลายเป็นกีฬาต่อสู้อย่างเป็นทางการของประเทศ หลังจากนั้นชื่อของ อะนาโตลี ฮาร์ลัมปีเยฟ จึงกลายเป็นที่รู้จักโดยแพร่หลายว่าเป็น บิดาแห่งกีฬาแซมโบ้

จะเห็นว่าในสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างภาวะสงครามโลก การเรียนรู้และฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของชาวรัสเซีย ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และสามารถเชื่อมความสัมพันธ์จากอดีตมาสู่ปัจจุบันด้วยการถ่ายทอดต่อกันผ่านทางศิลปะการป้องกันตัวที่เรียกว่า “แซมโบ”

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : มังงะ , แทงบอลโลก2022

อ่านเพิ่มเติม => เฮคเตอร์ คามาโช