เฮคเตอร์ คามาโช นักมวยที่ได้รับยกย่องว่าเป็นยอดมวยสมฉายา “มาโช”
เฮคเตอร์ คามาโช นักมวยจากเปอร์โตริโก ผู้ใช้ชีวิตสุดเหวี่ยงทุกด้าน ไม่ว่าจะในหรือนอกสังเวียน เขาคือนักมวยที่ได้รับยกย่องว่าเป็นยอดมวย สมฉายา มาโช หรือ แปลเป็นไทยคือ สมชายชาตรี
สำหรับชีวประวัติชอง คามาโช เขาเป็นชาวเปอร์โตริโก เติบโตมาในสหรัฐอเมริกา เนื่องจากพ่อกับแม่ของเขาแยกทางกัน จึงทำให้แม่ของเขาต้องอพยพเข้ามาอาศัยในมหานครนิวยอร์ก เพื่อทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ ในห้องเช่านิคมที่รวมตัวของกลุ่มชาวฮิสแปนิก หรือ กลุ่มชาติที่พูดภาษาสเปน
เขาเป็นลูกคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 5 คน การเป็นน้องคนสุดท้องทำให้เขาได้สิทธิ์โดนตามใจ จึงเป็นเหตุทำให้เขาแตกต่างจากพี่ ๆ ทั้ง 4 คน เนื่องจากตัวของพี่ทั้ง 4 ได้เข้ามาอยู่ในอเมริกาในตอนที่มีความรู้แล้ว จึงมีความฝันแบบอเมริกันดรีม ในดินแดนที่ใครดีใครได้ โอกาสเป็นของทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต้องลงมือทำงานเพื่อแลกมากับความฝันนั้น
จนครอบครัวเริ่มลำบากน้อยลง มีเงินพอส่งลูกคนสุดท้องที่เป็นตัวแสบของบ้านให้ได้รับการศึกษา แน่นอนว่า เฮคเตอร์ คามาโช่ คือความหวังของครอบครัวในแง่การเรียนสูง ๆ ทว่าเจ้าตัวไม่เข้าใจในความลำบากของแม่และพี่ ๆ ที่ยอมทำงานหนักเพื่อให้สิทธิ์นี้กับเขา
คามาโช กลายเป็นตัวแสบหัวโจกของโรงเรียน ตั้งแก๊งเด็กพูดสเปนขึ้นมา และไม่ยอมพูดอังกฤษ เรื่องนี้สร้างความกลัดกลุ้มให้กับทุกฝ่าย เพราะเขาแทบไม่ได้ไปเรียน แถมยังมัวไปมีเรื่องตามข้างถนน เหตุผลไม่ใช่อะไรมากมาย เพียงแค่ต้องการการยอมรับในแบบวัยรุ่น เขาเป็นหนุ่มหล่อหน้าคม มีสาว ๆ มาติดพันเยอะ และชอบอยนู่ในที่ ๆ มีสปอตไลท์ส่อง จนกระทั่งวันนึงได้เข้าไปเรียนในห้องเรียนของคุณคนหนึ่ง ที่ชื่อว่า แพต แฟลนเนอรี่
แพต แฟลนเนอรี่ เป็นครูสอนภาษาอังกฤษในช่วง ม.ปลาย ของโรงเรียนมัธยมปลายแมนฮัตตัน ที่นี่เปรียบเสมือนโรงเรียนที่รวบรวมเด็กหางแถวมารวมไว้ด้วยกัน แต่ละคนล้วนเป็นตัวแสบตามท้องถิ่น แพต ใช้วิธีใจแลกใจ ด้วยการไม่มองเขาเป็นขยะเหมือนครูคนอื่น ๆ ที่ถ้าเห็นเขาทำตัวไม่ดี ก็จะตัดหางปล่อยวัด เขานำ คามาโช่ กลับมาสู่การเรียนด้วยการช่วยติวภาษาอังกฤษ ให้เขาได้ใช้สื่อสารกับคนทั่วไปและใช้ชีวิตในอเมริกาให้ได้ดีกว่าที่เป็นอยู่
นอกจากสอนหนังสือ แพต ยังพยายามสอนให้ คามาโช ใช้ชีวิตเยี่ยงชายชาตรีที่แท้จริง และจงทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อหาความหมายของคำ ๆ นั้นให้เจอ เดิมที คำว่า ชายตาตรี ในแบบที่ คามาโช เข้าใจก็คือการควงสาวไม่ซ้ำหน้า เป็นลูกพี่น่าเกรงขาม และใช้ชีวิตแบบไม่มีเสียดาย ซึ่งทั้งหมดถูกแก้ไขโดย ครูแพต โดยเขาได้เปลี่ยนความหมายของมันสั้น ๆ ง่าย ๆ นั่นคือ การเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ
คำสั้น ๆ ง่าย ๆ นี้ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง คามาโช คิดได้ว่า เมื่อเขาได้รับสิทธิ์ที่แสนพิเศษจากคนในครอบครัว หากเขาใช้โอกาสนี้สร้างความสำเร็จ มันจะทำให้ทุกคนในบ้านหายเหนื่อยและมีกินมีใช้มากขึ้น กลับกันหากเขาทิ้งโอกาสนั้น และเดินสายจิ๊กโก๋ไปวัน ๆ นั่นหมายความว่า 10 ปี ที่ครอบครัวสละเวลาเพื่อเขา จะเป็น 10 ปี ที่สูญเปล่า ค่าของมันเท่ากับ 0 ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักดู เฮคเตอร์ คามาโช่ จึงเลือกเป็นชายชาตรีแบบที่ไม่ต้องทำให้ทุกคนเหนื่อยฟรี
กลายเป็นคนที่มีความรับผิดชอบ ตัดสินใจลงมือทำอย่างจริงจัง
หลังจากที่เขาได้เลือกทางที่จะไป สิ่งที่ควรทำต่อไป คือการลงมือทำอย่างจริงจัง โดย เฮอเตอรื คามาโช่ ได้รับการผลักดันให้ไปเรียนชกมวย จากโครงการของสถานีตำรวจแมนฮัตตันที่มีการสอนชกมวยฟรี ๆ ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ควรคว้าไว้
ในคลาสฟรี เฮคเตอร์ แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเท อย่างกับว่ามันไม่ใช่ของฟรี เขาเห็นคุณค่าของการเรียนนี้ แล้วอยากจะทำให้ดีเพื่อให้ได้โอกาสเปลี่ยนตัวเอง ด้วยโลกแห่งพลังหมัดมวย
แน่นอนว่าการลงทุนด้วยแรงกายและความตั้งใจของ เฮคเตอร์ ไม่สูญเปล่า หลังจากฝึกชกมวยสากลได้ไม่นาน เขาก็ได้รับการผลักดันสู่การแข่งขัน นวมทอง ซึ่งเป็นรายการมวยสำหรับ นักมวยเยาวชนและนักชกมือสมัครเล่นเท่านั้น
เพื่อให้เห็นคุณค่าของการลงมือทำ สู่จุดเริ่มต้นของการเป็นนักมวย แฟต แฟลนเนอรี่ ได้ตั้งฉายาให้กับ เฮคเตอร์ คามาโช่ ด้วยตัวเอง เขาเรียกลูกศิษย์คนนี้ว่า “มาโช” (ชายชาตรี) หลังจากนั้นไม่นาน ชื่อของ เดอะ มาโชแมน ก็กลายเป็นที่พูดถึงในวงการมวยสมัครเล่น ในแง่ของ มวยพรสวรรค์
ไม่กี่ปี หลังลงชกมือสมัครเล่น เฮคเตอร์ ก็ได้รับรางวัล นวมทองคำ ซึ่งเป็นการยันยันว่าเขาคือเบอร์ 1 ของวงการมวยสมัครเล่น และก้างต่อไปที่เขาต้องการก็คือ การเทิร์นโปร
การจะเป็นยอดมวยในระดับอาชีพ ต้องมีหลายปัจจัย อย่างแรกเลยต้องเป็นนักมวยที่ชกในรุ่นที่มีคนดู สองคือต้องมีคาแร็กเตอร์ที่ขายได้ สามคือต้องเก่งจริง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ จะกลายเป็นภาพจำของ เดอะ มาโชแมน ในช่วงเวลาต่อไป
ชกสนุก ดึงดูสายตาคนดู คาแรคเตอร์ชัดเจน มีความน่าติดตาม
คามาโช่ เล่าถึงอดีตตอนสมัยที่เขายังหนุ่ม ๆ ไว้ว่า ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เขาสนุกมาก พร้อมที่จะระเบิดใส่ใครก็ตามที่ขวางหน้า มั่นใจในความเร็วราวสายฟ้าของตัวเอง และพร้อมให้คนที่อยู่ตรงหน้าได้ลิ้มรสชาติของหมัดของเขา
20 – 30 ไฟต์แรกของ เฮคเตอร์ คามาโช่ จบลงด้วยชัยชนะหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบ ยืนครบยก โชว์ทักษะการดึงเกมและศักยภาพความฟิต หรือ แม้กระทั่งชนะน็อกภายในไม่กี่ยก ด้วยความเร็วและความหนักของหมัด ตั้งแต่ปี 1981 จนถึง 1990 เฮคเตอร์ คามาโช่ ชนะรวดทุกไฟต์
ช่วงเวลาดังกล่าว เขาคว้าแชมป์มาหลายรุ่น ทั้งเอาชนะ บ็อบบี้ ชาคอน ในรุ่นเฟเธอร์เวต, ชนะ โรเก้ มอนโดย่า ในรุ่นไลท์เวต, ชนะ เรย์ “บูมบูม” มันซินี่ ในรุ่นไลท์เวลเตอร์เวต
จากเด็กอพยพจากเปอร์โตริโกที่โดนมองว่าเป็นขยะสังคม เขากลายเป็นนักชกที่เก่งที่สุดในช่วงเวลานั้น และกลายเป็นนักมวยประวัติศาตร์ ที่ชาวเปอร์โตริโก ภูมิใจยกให้เป็น นักมวยที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่พวกเขาเคยมี
ตัวของ เฮคเตอร์ นั้นถือเป็นนักมวยรุ่นแรก ๆ ที่มีจุดเด่นด้านคาแร็คเตอร์ พอ ๆ กับฝีมือ กลายเป็นคนที่แฟนมวยจดจำได้ จากท่าทางเฮอาต่าง ๆ และการอยู่หน้ากล้องของเขา ก็แสดงออกมาราวกับว่าเขาคือดาราภาพยนตร์
เมื่อขึ้นเวทีทุกสายตา จะจับจ้องมาที่ คามาโช่ ก่อนไฟต์จะเริ่ม คู่ชกฝั่งตรงข้ามกลายเป็นเหมือนธาตุอากาศ เพราะเขาขโมยซีนไปจนหมด
ในช่วงปลายอาชีพแม้ คามาโช่ จะไม่ได้ต่อยเก่งกาจอะไร เพราะอายุมากขึ้น แต่เขาก็ยังชกอยู่บ่อย ๆ เพระาความขายได้ ทั้งในและนอกสนาม หนึ่งในไฟต์ที่น่าจดจำที่สุดคือการได้ขึ้นชกกับ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด เทพมวยยุค 80s ซึ่งแม้จะแก่มากแล้ว แต่คามาโชก็ยังเอ็นเตอร์เทนคนดูได้จากภาพจำเดิม ๆ เช่นการแต่งตัวด้วยกางเกงมวยสีฉูดฉาด การให้สัมภาษณ์ที่ใครได้ยินแล้วก็มึกจะคิดตามกันว่า ไอ้หมอนี่ปากแจ๋วดีแฮะ
สุดขั้วถึงวันสุดท้าย ตอนจบชีวิตของ เฮคเตอร์ คามาโช
ความจริงเขาควรถูกจัดจำว่าเป็นนักมวยที่โดดเด่นตลอดกาล เพียงแต่ตอนจบของชีวิตเขามาถึงเร็วกว่าที่คิด และมันมาจากเรื่องที่เขาเคยเอาชนะไปแล้ว นั่นคือเรื่องของอาเสพติด
หลังจากที่เลิกชกไปในปี 2010 วางมือและกลายมาเป็นคนที่ใครก็ต่างวิ่งเข้าหาไม่เว้นแม้กระทั่งอาชญากร ทำให้เขาเข้าไปพัวพันกับแก๊งค้ายาเสพติดในประเทศเปอร์โตริโก จนโดนลอบยิงหลายครั้งแต่ก็รอดชีวิตมาได้ จนกระทั่งสุดท้ายเขาก็มาพลาดท่า ถูกมือปืนยิงเขาที่หัวจนเสียชีวิต เมื่อปี 2012 ด้วยวัย 50 ปี เท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : อนิเมะ , แทงบอลโลก
อ่านเพิ่มเติม => ฉมวกเพชร ห้าพลัง