สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ประวัติ “เจ้าหนูนักฆ่า” ยอดมวยคิกบ็อกซิ่งชาวไทย

สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ประวัติ “เจ้าหนูนักฆ่า” ยอดมวยคิกบ็อกซิ่งชาวไทย

สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง หรือ ชื่อจริง อนุลักษณ์ จันทร์สุข เป็นทั้งนักมวยไทยชาวไทย และเป็นแชมป์โลกกลอรีคิกบ็อกซิง ผู้มีผลงานจากการเผชิญหน้ากับ อี้ หลง กังฟูเส้าหลินที่มีชื่อเสียงชาวจีน และสิทธิชัยเป็นฝ่ายชนะน็อก ด้วยการเตะก้านคออี้ หลง ในยกที่ 2 คว้าแชมป์อู่หลินเฟิง อี้หลง ชาลเลนจ์ โดยได้รับเงินรางวัล 100,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.4 ล้านบาท

เขาคือนักมวยไทยคนหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ระดับมวยแม่เล็ก ของวงการคิกบ็อกซิ่งอันดับต้น ๆ ของโลก พร้อมด้วยดีกรีแชมป์โลกมวยไทย และคิกบ็อกซิ่ง 12 สมัย เรียกได้ว่าเป็น มวยหมัดซ้าย อันตรายคนหนึ่งของยุคปัจจุบัน

แม้ว่าการเปิดตัวใน วัน แชมเปียนชิพ อาจไม่สวยงามเท่าไหร่ แต่เขาก็กลับมาทวงคืน ความยิ่งใหญ่ได้อย่างสง่างาม ในฐานนักมวยคนหนึ่งที่เก่งกาจที่สุดในโลก แล้วโอกาสนั้นก็มาถึง เมื่อถูกวางตัวให้เจอกับ “ไทฟุน ออสแคน” คิกบ็อกเซอร์ท็อป 10 ของโลกชาวตุรกี ซึ่งกำลังมาแรงในระยะหลังนี้ ในศึก ONE:BATTLEGROUND โดยสิทธิชัยก็ได้รับชัยชนะไป

วันนี้เราจะพาผู้อ่านไปเจาะลึกเส้นทางชีวิตของ สิทธิชัย อะไรหล่อหลอมให้เขากลายเป็นยอดฝีมือคิกบ็อกซิ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในเวทีโลกอย่างทุกวันนี้

ประวัติ สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง กับเรื่องราว จุดเริ่มต้นของการเป็นนักมวยไทย

สิทธิชัย หรือ  “นายอนุลักษณ์ จันทร์สุข” มีชื่อเล่นว่า “เมย์” เกิดเมื่อ 23 กันยายน 2534 อายุ 29 ปี มีพี่น้องเป็นชายล้วน 3 คน โดยเขาเป็นลูกคนกลาง บิดาชื่อ “นายสมาน จันทร์สุข” เป็นอดีตนักมวยเก่าในนาม “สมาน เมืองรอง” และมารดาชื่อ “นางสมมุ่ง” มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

ในวัยเด็ก สิทธิชัย เข้าศึกษาที่ โรงเรียนบ้านหนองทองลิ่ม ซึ่งด้วยความที่มีพ่อเป็นนักมวยเก่า พ่อจึงเป็นเป็นครูมวยคนแรกให้กับเขา โดยเริ่มหัดมวยเมื่ออายุ 11 ปี เพื่อไว้ป้องกันตัวแต่ สิทธิชัย มีเลือดนักสู้ เห็นพ่อชกมวยแล้วเกิดแรงบันดาลใจ จึงขอพ่อทดลองวิชาบนสังเวียน พ่อพาไปเปรียบมวยในงานโรงเรียนบ้านเสลา ที่ ต.ทุ่งแสงทอง ปรากฏว่าเขาแพ้น็อก เพราะเจอมวยเที่ยวบินสูงกว่าถึง 10 ไฟต์ แต่ก็ได้รับค่าตัว 150 บาทในวันนั้น

ถึงแม้ว่าจะพ่ายแพ้ไปในศึกแรกของชีวิต แต่นั้นไม่ได้ทำให้ สิทธิชัย ลดความพยายาม เมื่อพ่อเห็นความมุ่งมั่นของ สิทธิชัย จึงนำเขาไปฝากเป็นศิษย์ของ “ครูบุญเยี่ยม พลเศษ” ผู้ได้รับฉายา เจ้าพ่อมวยเด็ก ผู้เป็นเจ้าของค่ายมวย ศิษย์บุญเยี่ยม ภายในจังหวัด บุรีรัมย์ โดย สิทธิชัย ใช้ชื่อในการชกครั้งแรกว่า “เดชพยัคฆ์ ศิษย์ครูเยี่ยม”

หลังจากได้เรียนรู้วิชาหมัดมวยอย่างจริงจัง กับครูบุญเยี่ยม สิทธิชัย ก็ตะเวนชกตามเวทีมวย ในต่างจังหวัด ไปจนสั่งสมกระดูกมวย จนได้ประสบกาณ์แกร่งกล้า พอตัว ก่อนที่ครูบุญเยี่ยม จะผลักดันให้เข้าไปชกในกรุงเทพ เมื่อตอนอายุได้ 15 ปี โดยเปลี่ยนชื่อมาเป็น “สิทธิชัย ศิษย์ครูเยี่ยม”

ซึ่งในเวลาต่อมา สิทธิชัย ได้คว้าแชมป์มวยไทยจากหลายรายการ เป็นแชมป์มวยรอบโตโยต้ามาราธอนพิกัด 70 กก. ถึงสองสนาม แชมป์ประเทศไทย รุ่นเวลเตอร์เวต และ แชมป์ลุมพินีแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวต

เส้นทางสู่เวทีอินเตอร์ กับความเก่งกาจขนาดจนไร้คู่ชก

สิทธิชัย เป็นนักมวย ที่มีหุ่นก้านดี รูปร่างสูงใหญ่ และน้ำหนักไม่มากเกินไป จึงถูกตลาดมวยต่างประเทศ อย่าง “มิสเตอร์ทิม” ทิมาธี ธรรมาชีวะ หนุ่มนักเรียนนอกเจ้าของค่ายมวยศิษย์สองพี่น้อง ได้ติดต่อขอให้ สิทธิชัย มาอยู่ในสังกัดและเปลี่ยนสีเสื้อใหม่เป็น “สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง” เมื่ออายุ 17 ปี ซึ่งถือเป็นบันไดขั้นสำคัญที่ส่งให้ สิทธิชัย ก้าวสู่ความสำเร็จระดับโลก

สิทธิชัย ภายใต้สังกัดศิษย์สองพี่น้อง ได้รับการฝึกสอนจากทีมงานมาตรฐาน และมีการใช้หลักวิทยาศาสตร์มาช่วย ทำให้ สิทธิชัย พัฒนาความแข็งแกร่งทางร่างกายอย่างมาก ตะวันฉาย vs สิทธิชัย

ซึ่งได้ประเดิมไฟต์แรกในเวทีต่างประเทศในวัยเพียง 18 ปี ในการแข่งขันมวยรอบ 4 คนพิกัด 70 กก. ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อปี 2553 โดยสามารถปราบ “อดีตยอดมวยไทย 2 สมัย” อนุวัฒน์ แก้วสัมฤทธิ์ ในรอบแรก และคว้าชัยเหนือยอดมวยเจ้าถิ่น “ฟาบิโอ ปินกา” ในรอบชิง ทำเอากองเชียร์อึ้งกันไปเป็นแถบ จากนั้นเขาก็ขึ้นแท่นเป็นนักชกเนื้อหอมที่ถูกจองคิวเดินสายชกต่างประเทศ ทั้งยุโรป ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม อิตาลี ฯลฯ

ตลอดระยะเวลาที่เดินสายชกต่างประเทศมา 3 ปี สิทธิชัย เก็บชัยชนะมานับครั้งไม่ถ้วน จนแฟนมวยต่างชาติตั้งฉายาให้ว่า “The Killer Kid” หรือ “เจ้าหนูนักฆ่า” ซึ่งมาจากการเผด็จศึกคู่ต่อสู้อันเฉียบขาดของเขา

สิทธิชัย คว้าแชมป์บนเวทีระดับโลก หลายรายการ สร้างชื่อระบือไกลในจีน ด้วยการคว้าแชมป์คุนหลุนไฟต์ ปี 2015 รุ่น 70 กก. และแชมป์กลอรีคิกบ็อกซิ่ง ในปี 2016 พร้อมโกยเงินค่าตัวแพงที่สุดคนหนึ่งของโลก และถูกจัดอันดับให้เป็นนักชกคิกบ็อกซิ่งที่เก่งที่สุดเมื่อเทียบปอนด์ต่อปอนด์

แต่ในฐานะนักชกที่เก่งที่สุดในโลกนี่เอง กลับทำให้ สิทธิชัย หาคู่ชกที่เหมาะสมด้วยยาก ทำให้ไม่มีรายการชก หรือนาน ๆ จะได้ชกเคลื่อนไหวสักที

ผู้เผยแพร่ศิลปะมวยไทย เดินตามรอย แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม

นอกจากจะเป็นมวยแม่เหล็ก เก่งกาจระดับโลก ที่หาคู่ชกได้ยากแล้ว เขายังเป็นผู้เผยแพร่ศิลปะ มวยไทย ให้ผู้คนในต่างประเทศได้รู้จักมากขึ้น ในช่วงปี 2017 สิทธิชัย เดินทางไปชกมวยรอบ 8 คนที่ประเทศจีน โดยสามารถโค่นกังฟูจีนชื่อดัง “อี้หลง” ด้วยลูกเตะก้านคอชนะน็อกในยก 2 คว้าแชมป์ WLF มาได้ พร้อมคว้าเงินรางวัลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1 แสนเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3.2 ล้านบาท

ด้วยผลงานโดดเด่น ในการป้องกันแชมป์ได้หลายครั้ง รวมถึงการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ สมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทยจึงมอบรางวัลเกียรติยศ “ผู้เผยแพร่ศิลปะมวยไทยในต่างแดนประจำปี 2560” ให้ สิทธิชัย ซึ่งเป็นรางวัลพิเศษที่มอบให้กับนักมวยไทยเพียงไม่กี่คน ที่ได้ไปสร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลก ตามรอย “โคตรมวย” แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ที่เคยได้รับรางวัลนี้มาก่อน

เมื่อช่วงกลางปี 2563 สิทธิชัย ตัดสินใจ จรดปากกาเซ็นสัญญากับ วัน แชมเปียนชิพ เพื่อเป็นนักกีฬาในชุด วัน ซูเปอร์ ซีรีส์ (มวยไทย/คิกบ็อกซิ่ง) ในรุ่นเฟเธอร์เวต ซึ่งอัดแน่นไปด้วยนักสู้ระดับแนวหน้าของโลกและถือว่าเป็นรุ่นที่แข็งแกร่งที่สุด ณ ปัจจุบันอีกด้วย

ชีวิตส่วนตัว สิทธิชัย เป็นนักมวยพ่อลูกอ่อนไปเรียบร้อย โดยมีลูกชาย “น้องเนเจอร์” หรือ เด็กชายลักษณ์คภัทร จันทร์สุข ซึ่งเป็นของขวัญล้ำค่าจากภรรยาสาวสวยชาวจังหวัดมหาสารคาม “น้องโบว์” พัชรนาฏ ชุมฝาง

หลังจากที่ไม่ได้ชกเคลื่อนไหวมาพักใหญ่ ในฐานะพ่อคนและหัวหน้าครอบครัว สิทธิชัย ได้วางแผนปูรากฐานที่มั่นคงให้ครอบครัวด้วยการสานต่อธุรกิจทำเฟอร์นิเจอร์ที่ทำกับครอบครัวภรรยาควบคู่ไปการชกมวย โดยหวังว่าจะยึดเป็นอาชีพหลักหลังปลดเกษียณ

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : แทงบอลออนไลน์ , ดูบอล

อ่านเพิ่มเติม => Anthony Joshua