ประวัตินักมวย ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น
ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย มีชื่อจริงว่า วิศักดิ์ศิลป์ วังเอก มีชื่อเล่นว่า “ตั้ม” แต่คนสนิทนิยมเรียกเขาว่า “แหลม” เขาคืออดีตแชมป์โลกของสภามวยโลก (WBC) นักมวยสากลชาวไทยในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท (115 ปอนด์) 2 สมัย ในกลางปี พ.ศ. 2560 เว็บไซต์บ็อกเรกดอตคอมได้ยกให้เขาเป็น นักมวยสากลชาวเอเชีย อันดับ 1 และเป็นนักมวยอันดับ 5 ของโลก เมื่อเทียบกันรุ่นต่อรุ่น
อีกทั้งยังได้รับการยอมรับจากเดอะริงให้เป็นแชมป์โลกในรุ่นเดียวกัน สำหรับประวัติส่วนตัว เขาเกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2529 ที่อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ แหลมเติบโตมาในครอบครัวนักมวย ปู่ อา พ่อ และน้อง 2 คนของเขาเป็นนักมวยทั้งหมด แหลมจึงเลือกเดินบนถนนสายต่อยมวย แม้ในทีแรกเขาจะบอกใครต่อใครว่าไม่อยากเป็นนักมวยก็ตาม
โดยตอนนั้นเขาใช้ชื่อในวงการมวยไทยว่า ‘ซูเปอร์เล็ก ศิษย์ประเทือง’ ในตอนแรกเขาไม่ได้อยากต่อยมวย เพราะกลัวเจ็บ ไม่กล้า แต่เพราะว่ามีคนมาท้าถึงบ้าน เขาก็เลยจำเป็นต้องสู้ การต่อยครั้งแรกชนะน็อกได้ ก็ทำให้เขามีกำลังใจ แม้แต่ช่วงที่แหลมมีแฟนก็เคยมีคนดูถูกเขาว่า ‘เป็นนักมวยจะทำอะไรกิน จะเลี้ยงดูกันได้เหรอ’ นั่นจึงกลายเป็นเรื่องผลักดัน ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาในกรุงเทพในที่สุด
เพื่อพิสูจน์ให้คนทางบ้าน ทั้งครอบครัวของแฟนและของเขา เห็นว่าการเป็นนักมวยก็อยู่กันได้ เขาสามารถอาตัวรอดได้ จะทำงานหรือชกมวย อะไรก็ได้ หลังจากนั้น ชายหนุ่มและคนรักจึงเดินทางเข้ากรุงเทพมาด้วยเงินติดตัว 500 บาท ชีวิตช่วงแรกของแหลมในกรุงเทพฯ หาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เซ็นทรัล บางนา และเดินสายต่อยมวย
ซึ่งเจ้าแหลมเดินสายต่อยมวยไทย โดยไม่ได้มีค่าย และต่อยได้ครั้งละพัน โดยต่อย 5 วัน บางทีคืนนึงต่อย 2 – 3 ครั้ง แน่นอนว่าในวันสุดท้ายคือวันที่อ่วมมากที่สุด เขาโดนชกจนมีแผลแตก หลังจากแผลแตกและพ่ายแพ้ ก็กลับมาเซ็นทรัล บางนา เพื่อสมัครเป็นคนเก็บขยะ เนื่องจากงาน รปภ. ต้องตื่นตี 5 ไปทำงาน 7 โมง เลิก 5 ทุ่ม แต่งานพนักงานเก็บขยะได้เลิกงาน 5 โมงเย็น
แต่มีอยู่วันหนึ่ง เขาเดินเล่นอยู่ในห้างแห่งหนึ่งแถวบางนา ก็มีหมอดูเข้ามาทัก โดยเข้ามาดูลายมือแบบไม่คิดเงิน กล่าวว่า ในอนาคตเขาจะกลายเป็น นักมวยสากลชาวเอเชีย บุคคลมีชื่อเสียง จะดัง จะรวย ซึ่ง ณ ตอนนั้นพนักงานเก็บขยะที่หาเช้ากินค่ำแบบเขา ก็ยังไม่รู้เลยว่าเขาจะได้กลายเป็นแชมป์ระดับโลกในอนาคต
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของคนที่เคยเป็นพนักงานเก็บขยะกับโอกาสที่คว้าเอาไว้
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของคนเรามีไม่กี่ครั้ง และใครหลายคนยังคงเฝ้ารอสิ่งนี้ วันหนึ่งจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญเดินทางมาเยือน ศรีสะเกษ เมื่อพี่ที่รู้จักโทรมาชักชวนเขาในวัย 18 ปีไปต่อยมวยสากลที่ญี่ปุ่น และนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการต่อยจากการต่อย มวยไทย ไปเป็น มวยสากล
ผลปรากฎว่าการไปชกญี่ปุ่น นักมวยสากลชาวไทยในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ก็ไม่ได้ฉายแววอะไรดี เพราะเขาแพ้หมดสภาพ แถมไม่ได้ซ้อมตั้งตัวมาก โดยเจ้าตัวก็หวังไปแค่หาเงินและเที่ยว ได้ค่าเหนื่อยมาหนึ่งหมื่น นับว่าเยอะแล้วสำหรับเวลานั้น โดยเขาไปชกที่ญี่ปุ่น 3 ครั้งและแพ้ทุกครั้ง
โดยครั้งสุดท้ายของการชก เขาเจ็บตัวมาก ตาปูด เขียว ช้ำไปหมด ความคิดบางอย่างก็เกิดขึ้นมาระหว่างที่เขาก้าวลงจากเวทีแล้วเดินทางไปสนามบิน เขาสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ให้ตัวเองต้องเจ็บหน้าแบบนี้อีก แม้แต่ในวันที่เขาต้องเผชิญหน้ากับ นวพล นครหลวงโปรโมชั่น วันนั้นถ้าเขาแพ้ เขาจะเลิกต่อยมวยไปเลย เพราะถ้าไม่ชนะจะต่อยมวยไปทำไม กลับไปทำงานแบบเดิมดีกว่า เขาคิด
และในวันนั้น ศรีสะเกษ ก็ได้ยันเสมอนวพลได้สำเร็จ ทำให้ค่ายนครหลวงโปรโมชั่นซึ่งเป็นโปรโมเตอร์จัดการแข่งขันเห็นหัวจิตหัวใจนักสู้ของเขา แม้ว่าจะเชิงมวยไม่ดีแต่ใจสู้มาก ทางค่ายจึงเห็นความใจเพชรของเขา หลังจากนั้นเลยให้แหลมมาเป็นคู่ลงนวมที่ค่าย แต่ยังไม่ได้เป็นนักมวยของค่าย
วันเวลาที่แหลมได้ใช้ในค่ายนครหลวงโปรโมชั่น เขาขยันมาก ซ้อมเองโดยไม่ต้องมีใครเคี่ยวเข็ญ และมุ่งมั่นมาก ทางค่ายจึงเห็นว่านักมวยคนนี้ขยันใจเพชร หมัดหนัก ก็เลยตัดสินใจเซ็นสัญญา แม้ว่าเขาจะยังไม่เป็นที่รู้จักและยังไม่เคยชนะใครสักคน
ด้วยความที่ได้รับโอกาส หลังจากเซ็นสัญญา เขาจึงได้รับการฝึกซ้อมอย่างจริงจังแบบที่นักมวยอาชีพควรจะทำ ได้รับคำแนะนำจากผู้ที่คร่ำหวอดในวงการมวยมาจนทะลุปรุโปร่งอย่าง “เสี่ยฮุย” สุรชาติ พิสิฐวุฒินันท์ เจ้าของค่าย และ ‘อาจารย์ป็อป’ ลูกชายคนโตของเสี่ยฮุย ซึ่งเป็นอดีตนักชกทีมชาติเพื่อนซี้เก่าของ สมรักษ์ คำสิงห์ และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการปั้นแชมป์โลกของค่ายมาแล้ว 3 คนก่อนหน้าศรีสะเกษ
หลังจากเซ็นสัญญาเป็นนักมวยในค่ายนครหลวงโปรโมชั่น จากนักชกที่ยังไม่เคยชนะใครก็เก็บแต้ม 17 ไฟต์ ชนะรวดทั้งหมด 17 ไฟต์ และคว้าเข็มขัดสภามวยโลกเอเชีย (WBC Asia) มาครองได้ ที่สำคัญกว่านั้นคือในชัยชนะทั้ง 17 ไฟต์ที่ว่า เขาชนะน็อกทั้งหมด
เมื่อมีชื่อเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งแชมป์รุ่นซูเปอร์ฟลายเวท WBC การขึ้นเป็นแชมป์โลกของ ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย
สุริยัน ศ.รุ่งวิสัย นักมวยในสังกัดนครหลวงโปรโมชั่น ได้เสียแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ของสภามวยโลก ให้กับ โยตะ ซะโต นักมวยชาวญี่ปุ่นถึงถิ่นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2555 ทางต้นสังกัดจึงได้หมายมั่นให้ศรีสะเกษขึ้นชิงแชมป์โลกในรุ่นนี้แทนด้วยสัญญาที่มีไว้ผูกพันกับทางซะโต จึงทำให้ซะโตหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มาเดินทางมาป้องกันตำแหน่งถึงในประเทศไทย
ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย สามารถเอาชนะทีเคโอ โยตะ ซะโต ไปได้ในต้นยกที่ 8 เมื่อกรรมการชาวอิตาเลียนได้ยุติการชก ด้วยเวลา 1.23 นาที หลังจากยกที่ 7 ในช่วงกลางยกถึงปลายยกเป็นฝ่ายไล่ชกซะโตอยู่ข้างเดียว ทำให้ศรีสะเกษได้เป็นแชมป์โลกไปในทันที ซึ่งก่อนหน้านั้นการชกก็เป็นไปในลักษณะนี้อยู่แล้ว โดยที่ซะโตนาน ๆ ที จึงจะออกหมัดสวนมาครั้งหนึ่ง
แทบไม่มีใครเชื่อว่าเขาจะสามารถแย่งแชมป์มาครองได้ยกเว้นที่ค่าย ทั้งแฟนมวยทั้งสื่อคิดว่าซาโตะกินหมูแล้ว เพราะว่าตอนนั้นซาโตะเก่งมาก ชนะสุริยัน นครหลวงโปรโมชั่น เจ้าของแชมป์คนก่อน และชนะนักมวยดี ๆ หลายคนแบบขาดลอย แล้วตอนนั้นเจ้าแหลมยังไม่เคยเจอนักมวยที่อยู่ในอันดับโลก เพราะในการชกกับซาโตะครั้งนั้นทางค่ายได้วางแผนการบางอย่างก่อนขึ้นชกอย่างแยบยล
ชนิดที่นักชกชาวญี่ปุ่นและทีมงานเองก็คาดไม่ถึง ความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของ ศรีสะเกษ นักมวยสากลชาวเอเชีย ที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือเขาสามารถต่อยได้ 2 การ์ด เป็นนักมวยที่หมัดหนักทั้งสองข้าง จริง ๆ แหลมเป็นคนถนัดซ้าย แต่ตอนเริ่มชกมวยสากลใหม่ ๆ ครูมวยสากลฝึกให้เขาตั้งการ์ดเหมือนมวยถนัดขวา นั่นจึงกลายเป็นเหตุให้เขาชกหมัดหนักทั้งสองข้าง
ด้วยเหตุที่ ตอนแรกนั้นแหลมเป็น นักมวยสากลชาวไทยในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ที่เขาจะส่งไปต่อยเพื่อจะสร้างอันดับให้นักมวยที่ญี่ปุ่น ซึ่งนักมวยที่นั่นส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบต่อยกับมวยซ้าย เพราะฉะนั้นถ้าเป็นมวยซ้ายเขาก็จะไม่เรียกให้ไปต่อย เขาก็เลยฝึก แหลมเป็นนักมวยขวา เพราะฉะนั้นเขาจึงต่อยเป็นมวยการ์ดขวามาตลอด อยู่ค่ายนครหลวงโปรโมชั่นเริ่มแรกเขาก็ต่อยการ์ดขวาตลอด 17 ไฟต์ที่ชนะ
การเสียแชมป์ให้กับ คาร์ลอส คูเอดราส ด้วยความกังขา
น่าเสียดายที่แชมป์ครั้งแรกของ ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย อายุสั้นเกินกว่าที่ควรจะเป็น เมื่อป้องกันแชมป์ได้เพียงหนึ่งครั้ง ก่อนจะมาเสียแชมป์ให้ คาร์ลอส คูเอดราส นักชกชาวเม็กซิโก ผู้ท้าชิงชาวเม็กซิกันที่ยังมีสถิติไม่เคยแพ้หรือเสมอแก่ใคร โดย นักมวยสากลชาวไทยในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท เป็นฝ่ายเดินทางไปป้องกันตำแหน่งถึงกรุงเม็กซิโกซิตี ประเทศเม็กซิโก นับเป็นนักมวยไทยรายแรกในรอบ 40 กว่าปีที่ไปป้องกันตำแหน่งถึงประเทศเม็กซิโก
นักมวยจากแดนจังโก้เกิดแผลแตกในจังหวะหัวชนกันแล้วศรีสะเกษโดนตัดคะแนน กรรมการจะยุติการชกในยกที่ 8 แล้วรวมคะแนนให้คูเอดราสเป็นผู้ชนะไปในไฟต์นั้น ความพ่ายแพ้นำความว่างเปล่ามาเยือนในชีวิตของศรีสะเกษ เพราะไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเข้าใกล้แชมป์โลกอีกครั้งเมื่อไหร่ เป็นเวลาเกือบ 3 ปีที่เขาไม่มีโอกาสชิงแชมป์อีกเลย ตอนนั้นจะออกจากค่าย
ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะออกไปทำอะไร ไม่ได้ชิงหลายที คูเอดราสป้องกันแชมป์ไปแล้วหลายไฟต์ เป็นเวลาเกือบ 3 ปีที่เขาห่างเหินจากการชิงแชมป์โลก และไม่รู้ว่าจะได้โอกาสอีกครั้งเมื่อไหร่ ยิ่งแชมป์โลกรุ่นซูเปอร์ฟลายเวทเปลี่ยนมือจากคูเอดราสไปอยู่กับ โรมัน กอนซาเลซ ซูเปอร์สตาร์ชาวนิการากัวเจ้าของแชมป์ 4 รุ่นผู้ไม่เคยแพ้ใคร ยิ่งเป็นเรื่องยากขึ้นหลายเท่าชนิดที่คนไม่ดูมวยอาจจินตนาการไม่ออกว่ายากยังไง
โรมันเป็น ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก เวลาชกถ่ายทอดสดโดย HBO ขายตั๋วเข้าชมที่อเมริกา ทุกครั้งที่จัดแข่งเขาต้องได้กำไร โรมันต่อยกับใครคนที่อเมริกาคนต้องรู้จัก เพราะไม่อย่างนั้นคนที่นั่นเขาก็ไม่เข้าสนามมาดู แล้วถ่ายทอดสดที่นั่นเป็นแบบระบบ Pay-Per-View ต่อให้เราเก่ง แต่ถ้าคนไม่รู้จักเขาก็ไม่จ่ายเงินดู แล้วนักมวยคนหนึ่ง ถ้าอยู่ในระดับโรมัน ต่อยอย่างมากปีละ 2 – 3 ครั้ง
แล้วทำไม ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ต้องมาชกกับ ศรีสะเกษ ศ.รุ่งวิสัย ที่ไม่มีชื่อเสียงอยู่ที่อเมริกา?
คล้ายโชคชะตากำหนดไว้ เมื่อ “แบงค์” เธียรชัย พิสิฐวุฒินันนท์ ลูกคนเล็กของ เสี่ยฮุย ซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา พบว่าวิทยากรคนหนึ่งที่ได้รับเชิญมาพูดในคลาสเรียนวิชา Sport Management คือ Peter Nelson (ปีเตอร์ เนลสัน) ผู้นั่งตำแหน่ง Executive Vice President ของ HBO Sport
เขาก็เลยไปหาอาจารย์ ไปขอร้องอาจารย์ เล่าให้ฟังว่าที่บ้านมีค่ายมวย อยากพูดคุยกับ ปีเตอร์ เนลสัน ให้อาจารย์ช่วยจัดนัดดื่มกาแฟ จนกระทั่งอาจารย์จัดนัดให้ โดยเขาได้พรีเซนต์ ศรีสะเกษ บอกเขาว่าที่บ้านเขามีนักมวยคนหนึ่ง นักมวยสากลชาวเอเชีย ดุดันมาก อึดมาก เก่งมาก ทำคลิปไปให้ดู ทางนั้นบอกเคยได้ยินชื่อแล้วแต่ไม่เคยเห็นตอนต่อย จึงพรีเซนต์ว่าด้วยสไตล์ของโรมันกับแหลมต้องเดินหน้าเข้าหากันแน่นอน
อยากให้ดูเทป ถ้าทั้งสองได้ชกกันจะต้องสนุกอย่างแน่นอน ทุกคนก็รู้ว่าโรมันจะชนะอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณจัดให้แฟนมวยคุณดูเขาชอบแน่นอน จากวันนั้นก็ตื๊อเขาปีหนึ่ง ทั้งส่งอีเมลและขอคุย ระหว่างนั้นก็บินไปเม็กซิโก ซิตี้ และ ไมอามี่ เพื่อขอให้ทาง WBC ช่วยสนับสนุนให้อีกทาง” แล้วในที่สุดการรอคอยเกือบ 3 ปี ก็สิ้นสุดลง
วันที่ 19 มีนาคม 2017 ศรีสะเกษ นักมวยสากลชาวเอเชีย ได้ขึ้นสังเวียนชกกับโรมัน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่นักมวยไทย นักมวยสากลชาวเอเชีย ได้มีโอกาสไปชิงแชมป์ที่ Madison Square Garden ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นคล้ายเมกกะของวงการมวยอันเก่าแก่และแสนเข้มขลัง และครั้งนั้น HBO ก็ถ่ายทอดสดไปทั่วโลก
วันนั้น นักมวยสากลชาวไทยในรุ่นซูเปอร์ฟลายเวท ลบล้างทุกคำดูถูกด้วยผลงานบนเวที ไล่บด โรมัน กอนซาเลซ จนลงไปกองกับพื้นในยกที่ 1 และเมื่อสิ้นเสียงระฆังในยกที่ 12 นักชกชาวไทยก็ เดินลงมาพร้อมกับเข็มขัดและตำแหน่งแชมป์โลกกลับเมืองไทย
ติดตามเว็บไซต์ที่น่าสนใจ : ดูซีรี่ย์
อ่านเพิ่มเติม => นักชกONEที่ได้เป็นเจ้าของแชมป์เวิลด์กรังด์ปรีซ์