วลาดิเมียร์ คลิทช์โก้ ประวัติ

วลาดิเมียร์ คลิทช์โก้ ประวัติ เรื่องราว ของยอดนักมวยรุ่นเฮฟวี่เวทชาวยูเครน

วลาดิเมียร์ คลิทช์โก้ ประวัติ ในปัจจุบัน เมื่อกล่าวถึงนักชกตัวจริง โดยเฉพาะในรุ่นใหญ่อย่าง เฮฟวีเวทจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก วลาดิเมียร์ คลิทช์โก้ เขาคือ นักมวยสากลมืออาชีพชาวยูเครน ซึ่งสู้ในรุ่นเฮฟวีเวท มีชื่อเต็มว่า วลาดิเมียร์ โวโลดี มีโลวิช คลิทช์โก้  เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1976 ที่เซมิปาลาตินส์ก, คาซัคสถาน สหภาพโซเวียต เป็นน้องชายแท้ ๆ ของ วิตาลี คลิทช์โก้

วลาดิเมียร์ เคยผ่านการชกมวยสากลสมัครเล่น มาอย่างโชกเชนกว่า ผู้เป็นเป็น วิตาลี เสียอีก เขาเคยคว้าแชมป์มวยระดับจูเนียร์ของทวีปยุโรป ในรุ่นเฮฟวีเวท ปี ค.ศ. 1993 และยังเคยประสบความสำเร็จสูงสุด ด้วยการคว้าเหรียญทอง ในรุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวท ในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ค.ศ. 1996 ที่แอตแลนตา สหรัฐอเมริกา

หลังจากนั้น วลาดิเมียร์ ก็หันมาชกมวยสากลระดับมืออาชีพ พร้อม ๆ กับพี่ชาย วิตาลี ด้วยการอยู่ในสังกัด ยูนิเวอร์ซัม บ็อกซ์-โปรโมชั่น ที่ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ของ ฟริตซ์ สตูเนค

ทั้งสองพี่น้องหันมาชกมวยสากลอาชีพ ก็ได้สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมากกับ วงการมวยโลก ด้วยเพราะเป็นคนผิวขาว ที่ชกในรุ่นเฮฟวีเวท ที่มีความหมัดหนัก และรูปร่างที่สูงใหญ่ ทั้งสองคน ซึ่ง วลาดิเมียร์ สูง 6 ฟุต 7 นิ้ว หรือ 199 เซนติเมตร

วลาดิเมียร์ ผงาดขึ้นมาครองความยิงใหญ่ และมีชื่อเสียงก่อน วิตาลี พี่ชาย เมื่อสามารถคว้าเข็มขัดอินเตอร์เนชั่นแนล ของสภามวยโลก (WBC) มาครองได้ก่อน ในปี ค.ศ. 1998 แต่แล้ว วลาดิเมียร์ ก็ต้องมาพบกับความพ้ายแพ้ครั้งแรก เมื่อเป็นฝ่ายแพ้น็อกให้กับ รอสส์ พูริตตี นักมวยโนเนมชาวอเมริกัน ในปลายปีเดียวกันนั้น ด้วยยกที่ 11 หลังจากนั้น วลาดิเมียร์ ก็ยังเคลื่อนไหวอีกหลายครั้ง และคว้าแชมป์ยุโรปและแชมป์อินเตอร์คอนติเนนตัล ของ สมาคมมวยโลก (WBA) มาครองได้อีก

จากนั้น วลาดิเมียร์ มาคว้าแชมป์โลกได้เป็นครั้งแรก เมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน คริส เบิร์ด นักมวยชาวอเมริกันใน ปี ค.ศ. 2000 ได้แชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวทขององค์กรมวยโลก (WBO) วลาดิมียร์ป้องกันตำแหน่งไว้ได้ 5 ครั้ง ก่อนที่จะมาพ่ายแพ้อีกครั้งต่อ คอร์รี แซนเดอร์ส นักมวยชาวแอฟริกาใต้ ในปี ค.ศ. 2002 เมื่อเป็นฝ่ายแพ้น็อกเพียงแค่ยกที่ 2 จากนั้นก็ชกเคลื่อนไหวอีก 2 ครั้ง ก่อนที่จะพบกับความพ่ายแพ้ครั้งที่ 3 ต่อ ลามอน บริวสเตอร์ นักมวยชาวอเมริกัน ในยกที่ 5 เมื่อปี ค.ศ. 2003 ชิงแชมป์โลกกลับมาไม่สำเร็จ

หลังจากนั้น วลาดิเมียร์ ก็กลับมาเป็นแชมป์โลกได้อีกครั้งในปี ค.ศ. 2005 เมื่อเป็นฝ่ายชนะน็อก แซมมวล ปีเตอร์ นักมวยชาวไนจีเรีย ถึงรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา ทำให้ได้แชมป์หลายสถาบัน ทั้ง NABF, IBF และ WBO และจนถึงปัจจุบันนี้ วลาดิเมียร์ ก็ยังไม่ได้พ่ายแพ้แก่ใครอีก นอกจากจะเป็นแชมป์ของ NABF, IBF, WBO, IBO แล้วยังเป็นแชมป์ของสถาบันเดอะ ริง อีกด้วย

ชีวิตส่วนตัว ความเป็นมา ของ วลาดิเมียร์ คลิทช์โก้ ประวัติ อดีตยอดมวยรุ่นยักษ์ 

ในปี ค.ศ. 1996 วลาดิเมียร์ จบการศึกษาด้านครุศาสตร์ จากสถาบัน เปเรยาสลาฟ-คเมลนิตสกี้ เปดาโกจิคอล อินสติจูด (Pereyaslav-Khmelnitsky Pedagogical InstituteX ที่ยูเครน และในปี ค.ศ. 2001 ก็สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา จากมหาวิทยาลัยเคียฟ ตามวิตาลี พี่ชายที่จบก่อนหน้านั้นไม่นาน จนได้รับฉายาว่า “Dr. Steelhammer” หมอหมัดค้อนเหล็ก นอกจากนี้แล้วยังชื่นชอบการเล่นกอล์ฟ และสามารถพูดถึง 4 ภาษาด้วยกัน ได้แก่ อังกฤษ, รัสเซีย, ยูเครน และ เยอรมัน

ล่าสุด คลิตช์โก้ ก็ยังคงครองความยิ่งใหญ่ในวงการมวยรุ่นยักษ์ต่อไป หลังป้องกันแชมป์โลกเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ด้วยเอาชนะคะแนน อเล็กซานเดอร์ โพเวตกิน นักชกชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกอย่างเป็นเอกฉันท์ขาดลอย พร้อมยัดเยียดความปราชัยให้กำปั้นจากแดนหมีขาวเป็นครั้งแรก ในการชกที่สังเวียนในกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย

ในไฟต์นั้น คลิตช์โก เป็นฝ่ายคุมเกมการชกเอาไว้ได้โดยตลอด แถมยังส่งผู้ท้าชิงลงไปให้กรรมการนับได้ถึง 4 ครั้ง โดยแบ่งเป็นในยกที่สอง 1 ครั้ง และในยกที่สี่อีก 3 ครั้ง แม้แชมป์โลกชาวยูเครนจะโดนกรรมการตัดคะแนนข้อหากอดและเหนี่ยวคู่ต่อสู้มาก เกินไป แต่เจ้าตัวก็ยังเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปอย่างสบาย ๆ หลังชกครบ 12 ยก โดยกรรมการให้คะแนนทั้ง 3 ท่านต่างให้ คลิตช์โก ชนะ 119-104 คะแนนเท่ากัน

หลังจบการชก คลิตช์โก ออกมาชม โพเวตกิน ว่าเป็นนักชกที่ใจสู้จนยืนอยู่ครบ 12 ยก แม้จะโดนกำปั้นจัง ๆ ไปหลายครั้งก็ตาม โดยกล่าวว่า “อเล็กซานเดอร์ เป็นนักสู้ แต่ไฟต์นี้มันไม่ง่ายสำหรับเขา เพราะเขาโดนหมัดของผมเข้าไปเยอะ แต่เขาก็ยังปักหลักดวลกับผม เขาเป็นคนที่ใจสู้มาก ๆ จริง ๆ แล้วผมอยากน็อคเขาให้ได้ ผมอยากชกเขาจัง ๆ เพื่อปิดเกม จริง ๆ แล้วผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้

ในการชกไฟต์ครั้งนี้ คลิตช์โก ยังทำสถิติเป็นนักชกรุ่นเฮฟวีเวตที่รับค่าตัวสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ โดยฟันเงินเฉพาะค่าตัวเข้ากระเป๋าไป 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 510 ล้านบาท) เป็นรองแค่ค่าตัวที่ ไมค์ ไทสัน รับในไฟต์ที่เขาแพ้น็อค เลนน็อกซ์ ลูอิส ในยกที่ 8 เมื่อปี ค.ศ. 2002 เท่านั้น

การป้องกันเข็มขัดแชมป์โลก 4 สถาบัน ผลงานการชกที่น่าสนใจไฟต์หนึ่งของ คลิตช์โก้

ส่วนการชกที่น่าสนใจไฟต์อื่นของ คลิตช์โก้ ก็น่าจะเป็นการป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกของสหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF), องค์กรมวยนานาชาติ (IBO), องค์กรมวยโลก (WBO) และ สมาคมมวยโลก (WBA) ได้สำเร็จ หลังจากที่ชนะคะแนน มาริอุสซ์ วัค ผู้ท้าชิงจากโปแลนด์ อย่างเป็นเอกฉันท์ ในการชกที่สังเวียน โอทู เวิลด์ อารีน่า เมืองฮัมบูร์ก ประเทศเยอรมนี เมื่อวันเสาร์ที่ 10 พ.ย. ปีก่อน

โดยกรรมการข้างเวทีทั้ง 3 คนให้ คลิทซ์โก้ ผู้น้องวัย 36 ปี ซึ่งเพิ่มสถิติชนะเป็น 59 จากการชก 62 ไฟต์ คว้าชัยด้วยคะแนน 120-107, 120-107 และ 119-109 ขณะที่ วัค วัย 32 ปี พบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในอาชีพ หลังจากที่เป็นผู้ชนะมาตลอด 27 ไฟต์

ก่อนหน้านั้น คลิทช์โก้ ก็ไล่ถลุง โทนี่ ธอมป์สัน ผู้ท้าชิงชาวอเมริกัน ปิดเกมแค่ยก 6 เท่านั้น สามารถป้องกันเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต สหพันธ์มวยนานาชาติ (IBF) เอาไว้ได้แบบง่ายดาย ที่ เบิร์น, สวิตเซอร์แลนด์ ย้ำแค้นได้อีกครั้งหนึ่ง หลังเคยไล่ทุบชนะแบบไม่ครบยกมาแล้ว ในการพบกันเมื่อกว่า 4 ปีก่อน

โดยไฟต์ดังกล่าว คลิทช์โก้ ไล่ยำอยู่ข้างเดียว และส่ง ธอมป์สัน ล้มครั้งแรกด้วยหมัดฮุกขวา ในยก 5 แต่ผู้ท้าชิงยังประคองตัวครบยกได้แบบเจียนอยู่เจียนไป แต่ คลิทช์โก้ผู้น้อง ไม่ปล่อยให้ ธอมป์สัน วัย 40 ปี รอดไปได้ เมื่อสอยอีกชุดในยก 6 จนกรรมการต้องยุติการชก

หลังเสร็จงาน คลิทช์โก้ ที่ชนะ 58 แพ้ 3 และครองเข็มขัดทั้ง ไอบีเอฟ, สมาคมมวยโลก (WBA), WBO และ องค์กรมวยนานาชาติ (IBO) กล่าวว่า “ผมมั่นใจตั้งแต่ต้นแล้วว่าป้องกันแชมป์ได้แน่ การชกให้เข้าเป้าเป็นเรื่องยาก เพราะเขาคล่องแคล่วมาก เขามองเห็นหมัด ตาเขาจ้องไปที่หมัดตลอด มันทำให้เขาตื่นตัว แต่ผมก็มั่นใจในความแข็งแกร่ง, ความเร็ว, สภาพร่างกาย และพลัง

ด้าน ธอมป์สัน ที่แพ้ครั้งที่ 3 จาก 39 ไฟต์ กล่าวยกย่อง ว่า “ครั้งที่สองนี้ผมก็ยังไม่ดีพอ วลาดิเมียร์ เป็นแชมเปี้ยนผู้ยิ่งใหญ่ ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาแสดงให้เห็นแล้วในคืนนี้ ผมรู้สึกจริงๆ นะว่าผมชนะใครก็ได้ในรุ่นเฮฟวี่เวต แต่คงยกเว้นแชมเปี้ยน

นักมวยรุ่นยักษ์เนื้อหอม เรื่องราวด้านชีวิตรัก

นอกจากจะสมหวังกับผลงานบนสังเวียนแล้ว ชีวิตรักก็ดีไม่ได้แพ้กันเลย ล่าสุด เฮย์เดน พาเน็ตเทียร์ ดาราสาวคนสวยชาวอเมริกัน ก็เพิ่งออกมาเปิดเผยว่า เธอได้หมั้นกับ คลิทช์โก้ ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของเธอ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คลิทช์โก้ คนน้อง กับ พาเน็ตเทียร์ เพิ่งกลับมาสานสัมพันธ์สุดหวานแหววกันอีกครั้ง หลังจากที่เคยคบกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2009 แต่ต้องแยกทางกันไปในอีก 2 ปีต่อมา โดยหลักฐานที่ยืนยันถึงเรื่องนั้น ก็คือการที่พวกเขาจูบกันอย่างไม่เกรงสายตาคนอื่น ระหว่างชมเกมบาสเกตบอล NBA นัดที่ ไมอามี่ ฮีต เปิดบ้านเอาชนะ ชาร์ล็อตต์ บ็อบแคทส์ 109-77

ความรักครั้งนี้ของทั้งคู่เป็นไปอย่างราบรื่นสุด ๆ จนมีข่าวลือว่า พวกเขาหมั้นหมายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมามีคนจับภาพได้ว่า บนนิ้วนางข้างซ้ายของดาราสาววัย 24 ปีมีแหวนสุดสวยประดับอยู่ ในตอนที่เธออยู่ที่สนามบินลอสแองเจลิส

ถึงแม้ตอนนั้นกำปั้นวัย 37 ปี กับ พาเน็ตเทียร์ จะไม่ยืนยันถึงข่าวดีของพวกเขา แต่ล่าสุดนักแสดงคนสวยก็เปิดเผยผ่าน “ไลฟ์ วิธ เคลลี่ แอนด์ มิเชล” รายการทอล์คโชว์ของแดนลุงแซมว่า เธอได้หมั้นกับแชมเปี้ยนโลกรุ่นเฮฟวี่เวต 4 สถาบัน เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่ เคลลี่ ริป้า พิธีกรของรายการ “ไลฟ์ วิธ เคลลี่ แอนด์ มิเชล” พูดถึงแหวนบนนิ้วของเธอนั้น พาเน็ตเทียร์ ก็ตอบว่า “ฉันคิดว่า มันก็บอกอะไรหลายอย่างได้ดีแล้วนะ” ซึ่งหลังจากที่ ริป้า ถามตรง ๆ ว่าเธอหมั้นแล้วหรือไม่นั้น หวานใจของ คลิทช์โก้ คนน้อง ก็ตอบว่า “ใช่” โดยเธอเสริมว่า ยังไม่มีการกำหนดวันลั่นระฆังวิวาห์แต่อย่างใด

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : UFABET , ดูซีรี่ย์

อ่านเพิ่มเติม => ประวัติมวยสากลสมัครเล่น