ราชาน็อกเร็ว สกัด พรทวี” ยอดมวย 9 ชีวิต หลาน “ยักษ์สุข ปราสาทหินพิมาย”
ราชาน็อกเร็ว เรื่องราว สกัด พรทวี หรือ สกัด เพชรยินดี มีชื่อว่า วิรุฬห์ ผลพิมาย เป็นชาวอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เกิดเมื่อ พุทธศักราช 2501
สกัด พร ทวี 4 วิ เป็นนักมวยไทยที่เป็นที่รู้จักมาก่อนที่จะหันมาชกมวยสากล เป็นเจ้าของแชมป์มวยไทยแล้วก็คิกบ็อกซิ่ง 10 รายการอีกทั้งในและนอกเมืองไทย สถิติการต่อย 14 ครั้ง ชนะ 12 (น็อค 9) แพ้ 2 (เฉพาะมวยสากลอาชีพ)
มีศักดิ์เป็นหลานของ “ยักษ์ผีโขมด” สุข ปราสาทหินพิมาย นักมวยไทยมีชื่อ มีสถิติการชกมวยไทยราว 317 ครั้ง ชนะ 266 แพ้ 40 เสมอ 11 แล้วก็เป็นการชนะน็อกมากยิ่งกว่า 150 ครั้ง ก่อนที่จะเลิกชกมวยไทยไปด้วยอายุเพียงแต่ 28 ปี ดูอนิเมะออนไลน์
สำหรับการชกมวยสากล สกัดชกเพียง 2 ครั้งเพียงแค่นั้นก็ได้ชิงชนะเลิศโลกในรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท สภามวยโลก (WBC) กับ วิลเฟรโด โกเมซ แชมป์โลกชาวเปอร์โตริโก ช่วงวันที่ 2 เดือนมิถุนายน 2521
การชิงแชมป์โลกของสกัดจัดขึ้นที่สนามกีฬากึ่งกลาง จังหวัดนครราชสีมา มีประชาชนซื้อตั๋วเข้าชมกระทั่งแน่นสนาม แต่ว่าเมื่อคู่มวยก่อนถึงเวลาคู่แรกขึ้นเวทีต่อยกันเท่านั้น อัฒจันทร์ด้านทิศใต้พังทลายลงมา มีผู้ได้รับบาดเจ็บคนไม่ใช่น้อย จนกระทั่งมวยในรายการชกผ่านไป 3 คู่ ฝ่ายผู้จัดก็เลยสั่งให้งดการชกมวยไทยไว้ เพื่อรอเวลา 20.29 น. ซึ่งเป็นกาลที่สกัดจะขึ้นเวที
เมื่อถึงเวลาที่สกัดขึ้นเวที ปรากฏว่าอรรธจันทร์ทางทิศใต้พังทลายลงมาอีก ตอนนี้มีทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งผู้เสียชีวิต เกิดไฟช็อตจนถึงจำเป็นต้องปิดไฟในรอบๆสนามลง เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง เมื่อแก้ไขปัญหาไฟฟ้าในสนามเสร็จ การต่อยก็เลยเริ่มขึ้นเมื่อเวลาเกือบ 21.00 น. โดยตัดพิธีการบนเวทีออกไปหมด มีคณะกรรมการตัดสินบนเวทีคนเดียวเป็น เรย์นันโด โซลิส ชาวชาวเม็กซิโก รวมทั้งมีอันโตนิโอ สเกียร์ร่า ผู้แทนสภามวยโลกเป็นประจักษ์พยาน
ผลของการต่อยปรากฏว่าสกัดสู้ โกเมซไม่ได้ เป็นฝ่ายปิดป้องและออกหมัดผิดๆถูกๆในขณะโกเมซเลือกต่อยเอาตามใจชอบ ท้ายที่สุด สกัดเป็นฝ่ายแพ้น็อคไปในยกที่ 3 ทำให้ชิงแชมป์โลกไม่สำเร็จ
ในวันที่ 25 เดือนมีนาคม พุทธศักราช 2554 ได้มีการชิงชัยมวยไทยระหว่าง พุฒ ล้อเหล็ก กับ สกัด เพชรยินดี ในรายการ “ศึกเชิดชูไทย+วันสหพล” ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ด้วยเงินเดิมพันขั้นต่ำหนึ่งล้านบาท โดยความเป็น
จริงแล้ว การแข่งขันชิงชัยครั้งดังที่กล่าวมาแล้วมิได้มุ่งเน้นที่ทรัพย์สิน หากแต่เพียงอยากที่จะให้นักมวยไทยรุ่นหลัง มีการใช้ศิลป์มวยไทยได้อย่างแม่นยำ จากการแข่งขันชิงชัยครั้งดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น พุฒ ล้อเหล็ก เป็นฝ่ายชนะคะแนน ปัจจุบันนี้ สกัดได้เป็นเทรนเนอร์มวยไทยที่ฟิตเนส 7 ที่โรงแรมทาวน์อินทาวน์ กับ ทาวน์อินทาวน์ยิม แล้วก็ที่ไทยบ็อกซิ่งมาเตอร์ (TMB) แล้วก็ค่ายมวยเสกโลโซ ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์
เกียรติประวัติ
แชมป์ ABC รุ่นไลท์เวท (2529)
– ชิง 22 ก.พ. 2529 ชนะน็อค ยก 2 บอย โรมีโร (ธงของประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศฟิลิปปินส์) ที่ สนามกีฬาอัลซาบา อัลซาเร็ม ประเทศคูเวต ถัดมาสละแชมป์เนื่องจากสถาบันหยุดทำงาน
แชมป์ประเทศไทยรุ่นไลท์เวท
– ชิง 27 เดือนสิงหาคม 2529 ชนะน็อค ยก 1 พันศักดิ์น้อย เกียรติเกรียงไกร ต่อมาสละแชมป์ ราชาน็อกเร็ว
แชมป์ OPBF รุ่นไลท์เวท (2529 – 2530)
– ชิง 28 ต.ค. 2529 ชนะน็อค ยก 8 เดล อาร์ทังโก (ประเทศออสเตรเลีย)
– ปกป้องแชมป์ครั้งที่ 1, 26 เดือนกุมภาพันธ์ 2530 ชนะน็อค ยก 6 มูฮัมหมัด จูฮารี (อินโดนีเซีย) ที่ เวทีลุมพินี
– ป้องกันแชมป์ครั้งที่ 2, ชนะน็อค ยก 1 บิเซนติ ซานโตโซ (อินโดนีเซีย) ที่ เกซิก
– เสียแชมป์ 28 ก.พ. 2531 แพ้แต้ม ปาร์ค บองชุน ที่ แดจอน (ประเทศเกาหลีใต้)
เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จ
– ชิงชนะเลิศโลกรุ่นซูเปอร์แบนตัมเวท WBC เมื่อ 2 มิ.ย. 2521 แพ้น็อค ยก 3 วิลเฟรโด โกเมซ (เปอร์โตริโก) ที่ จังหวัดนครราชสีมา
สกัด พรทวี เป็นต้นแบบของตัวละครสกัด ซึ่งเป็นนักมวยไทยในวิดีโอเกม และภาพยนตร์สตรีทไฟท์เตอร์ โดยเมื่อกาลครั้งหนึ่ง สกัด พรทวี pantip เดินทางไปชกมวยไทยที่ญี่ปุ่น แล้วก็ต่อยได้ดีเป็นที่พอใจของทีมงานสร้างเกมตรงนั้น กระทั่งนำไปเป็นตัวละครในเกม ข้อมูลที่ได้รับมาจาก
บทสัมภาษณ์
“สกัด พรทวี” หรือ “สกัด เพชรยินดี” ชื่อนี้เคยลือลั่นยุทธจักรหมัดมวย ผู้ครอบครองแชมป์ 10 เส้นทั้งยังในประเทศแล้วก็ต่างแดน แถมด้วยสมญานาม “ราชาน็อกเร็ว” แล้วก็ผู้ครอบครองรำมวยไทยที่งามที่สุด 11 ปีซ้อนรวมทั้งในรอบ 200 ปีของกรุงรัตนโกสินทร์ ความยอดเยี่ยมของเขาสะดุดตาถึงกับขนาดที่เกมยอดนิยมอย่าง “สตรีทไฟเตอร์” ยังจับเอาไปสร้างเป็นโมเดลติดอยู่แรกเตอร์ของเกม
จากเด็กน้อยที่ราบสูงที่พระราชวังหินพิมาย สู่สังเวียนหมัดมวยไทย “สกัด พรทวี” หรือในชื่อจริง “วิรุฬห์ ผลพิมาย” บุตรหลานย่าโม สร้างตนกระทั่งเติบโตบนยุทธจักรมวยไทย ดังไปทั้งโลก ต่อยมาแล้ว แชมป์มาแล้ว ทั้งยังมวยไทยแล้วก็ มวยสากล เรียกว่าเป็นแชมป์รวมทั้งไร้พ่ายแพ้จนกระทั่งไม่มีคู่ต่อยถึงกับขนาดจะต้องสละตำแหน่ง
นี่เป็นตำนานอีกหนึ่งหน้าของประวัติศาสตร์หมัดมวยของบ้านเราที่มิได้มีเพียงแค่ด้านซึ่งหวานหอม ด้วยเหตุว่าอีกฟากฝั่งของความโด่งดัง ยังมีรอยแผลบางจุดที่เขาพร้อมจะเปิดใจกล่าวรวมทั้งเล่าเป็นแบบอย่างสอนใจ ทั้งตัวเองและก็คนอีกหลายคน
จากมวยแชมป์ถิ่นที่ราบสูง
รุ่งแล้วตก ร่วงแล้วรุ่ง สไตล์ “มวย 9 ชีวิต”! “ด้วยเหตุว่าต้นตระกูลเป็นนักมวยกันหมดเลย พี่ชายเราก็เป็นนักมวย คุณปู่ก็คือ “สุข ปราสาทหินพิมาย” (ผู้ครอบครองสมญานาม “ยักษ์ผีโขมด”) ตำนานมวยไทย ที่มีการสร้างอนุสาวรีย์ให้ที่โคราช แล้วก็สกุลเริ่มเลยเป็น “ผลพิมาย” ต้นไม้ต้นหนึ่งสามารถเป็นนามสกุลได้หมด กิ่งพิมาย ราก ผล ของเรา “ผลพิมาย” ก็เริ่มต่อยมวยตั้งแต่อายุ 11 ขวบ ในชื่อ “สกัด ปราสาทหินพิมาย””
ยอดมวยดังในอดีตกาล กล่าวเริ่มถึงชีวิตที่มั่วสุมอยู่กับสังเวียนหมัดมวยจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ช้านานร่วม 50 ปี แชมป์โลกเฮฟวี่เวทผิวดำ
“แต่ว่าในเวลานั้น พวกเราก็มวยบ้านนอกธรรมดา ชกมวยไทยแถวบ้าน แต่ก่อนใส่กระจับภายนอก ฝึกซ้อมแบบต่างจังหวัด ฝึกแตะ ต่อย เรื่อยเปื่อย แต่ว่าโดยมากจะต่อยเป็นซ้อมมากกว่า เป็นอย่างมีงานวัดสามวัน พวกเราก็ไปอาศัยต่อยก่อนที่จะถึงเวลาทั้ง 3 วัน พวกเราก็เติบโตมาอย่างงั้น ก็นับปริมาณที่ต่อยได้ 20 ไฟต์ไม่เคยแพ้คนใดกัน
“ชื่อเสียงพวกเราก็มีขึ้นมาระดับจังหวัด ระดับภาค ตอนนั้น “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบุญเยี่ยม โสภณ” ท่านเป็นหัวหน้าภาควิชาของค่ายพรทวี จากจังหวัดนนทบุรี ท่านรู้จักกับอาของพวกเรา ท่านรู้ข่าวสาร ท่านก็อยากจะมาลองมวย เนื่องจากพวกเราต่อยอยู่ต่างจังหวัดบ่อยมาก ไม่เคยแพ้คนไหนกันเลย เขาก็ต้องการจะเอามวยแข็งของเขามาพบกับเรา”
บางครั้งอาจจะด้วยความใหม่ ความเพียรพยายามฝึกหัดจากประสบการณ์จริงบนเวทีในวัยนั้น บวกกับความสามารถพิเศษที่สืบทอดสั่งสมมาจากบรรพบุรุษ นักมวยจากเมืองไกลก็เลยจำเป็นต้องพ่ายแพ้ให้กับหนุ่มบ้านนาที่ราบสูง ประเภทผู้ท้าชิงประลองยังจะต้องพูดทาบทามให้โยกย้ายเข้าอยู่สังกัดตน เพราะเหตุว่ามองเห็นแวว สกัด พรทวี ไหว้ครู
“ค่ายเขาก็มีนักมวยเก่งๆผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยในเวลานั้นมี “วิชาญน้อย พรทวี” เป็นนักมวยที่ดังมาก “เริงศักดิ์ พรทวี” รวมทั้งพอพวกเราต่อยชนะ เขาก็ติดต่อขอให้มาฝึกซ้อม ให้มาอยู่ในสังกัดพรทวี พวกเราก็มาอยู่ค่ายเขา ในช่วงเวลานั้นอายุโดยประมาณ 16 ย่าง 17 ปี เห็นจะได้ ยังจำได้เลยว่าต่อยคราวสุดท้ายเสร็จที่โคราชอีกหน เขาก็ไปรับ เอาใส่รถมาเลย (หัวเราะ) เพราะเหตุว่าเขาบอกที่บ้านไว้ ก็ไม่ต้องกลับไปอยู่บ้านมาอยู่ที่ค่าย
“จากมวยต่างจังหวัดมามวยกรุง
ต้นแบบการซ้อมก็เปลี่ยนไป ดังเรามาเรียนมหาวิทยาลัย มันจำต้องทำความเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น การซ้อมเขาฝึกซ้อมกันอย่างนี้ ซ้อมเสร็จก็มองมวยที่สูงกว่าพวกเรา ในตอนนั้นพวกเราก็มองมวยเงินหมื่นเขาซ้อม จนได้ขึ้นชกหนแรกด้วยการชนะน็อก เริงสิงห์น้อย ฤทธิ์วิบูลย์ ในยกที่ 2 ก็ไต่เต้ามาเรื่อยก็เริ่มจากมวยร้อย ต่อยทีแรกได้เงิน 800 บาท ยุคทองบาทละ 400 ก็ได้ได้โอกาสขึ้นต่อยก่อนถึงเวลา รอบบ่ายสนามมวยลุมพินี ไม่ใช่คู่เด่นดังอะไร แต่ว่าพวกเราก็ฝึกซ้อมๆเรื่อยๆมา” แต่เพียงแค่ช่วงเวลาเพียงแค่ 2 ปี
จากนักมวยเงินร้อยก็ผันแปรเป็นเงินแสน
รวมทั้งระดับแชมป์ราชดำเนิน “แรกๆที่ต่อย พวกเราก็มีชนะบ้างแพ้บ้าง แต่ว่าพวกเราจะชนะมวยไฟต์ใหญ่ๆในขณะนั้นก็ชนะรวด 5 ไฟต์ต่อเนื่องกัน ยุคนั้นก็เลยได้ได้โอกาสชิงชนะเลิศ เราก็ต่อยชนะได้แชมป์สายรัดเอวเส้นแรกที่ราชดำเนิน รุ่นแบนตั้มเวต น้ำหนัก 118 ปอนด์ ฟอร์มการต่อยก็ดีขึ้นเรื่อยๆในขณะที่อยู่รุ่นนี้ก็ต่อยชนะ อภิเดชน้อย ศิษย์หิรัญ, แก้วสวรรค์ เกียรติ ธ.ป., ดีที่สุด เดวี่, สิงห์หนุ่ม เพชรธานินทร์, ขาวผ่อง ศิษย์ชูชัย, พฤหัส โล่ห์เงิน, ศักดิ์สกล ศักดิ์ชาญณรงค์ ก่อนจะไม่มีผู้ใดต่อย ก็สละตำแหน่ง
“เป็นใครจะมาต่อยชิงชนะเลิศกับเรา เฮ้อๆไม่เอา กลัวเสีย อย่างแก้วสวรรค์ เกียรติ ธ.ป.“นักมวยเทวดา” ต่อย 4 ยก เราสู้ไมได้เลยนะ แต่ว่าเพียงพอปลายยก 4 เขาเตะผิด เราสวนต่อยปั๊บ น็อก กลับบ้านไม่ถูก หรือขาวผ่อง ระดับไม่เคยแพ้น็อกเลย ขึ้นไป เราก็โป๊ะ หลับ”
ด้วยเอกลักษณ์คุณลักษณะเด่นของหมัดที่เอาจริงเอาจัง การเข้าทำที่เร็ว เหตุนี้ก็เลยทำให้หัวหน้าคณะพรทวี มองเห็นแววทางรุ่งดังไกลระดับบัลลังก์โลก ก็เลยเสริมส่งให้ลงนวมมวยสากล ซึ่งยอดมวยหลานยาโม่ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพียงแต่หนแรกก็ซัด ฮวน อันโตนิโอ โลเปซ รองอันดับ 2 ของโลกชาวเม็กซิโก กับฮิซามิ มิสุโน นักต่อยจากญี่ปุ่น ก่อนที่จะเถลิงขึ้นท้าชิงแชมเปี้ยนโลก ในรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวต
“เขาก็ให้พวกเราเปลี่ยนเป้าหมาย
เนื่องจากมองเห็นหมัดพวกเราดี ก็เลยจับชกมวยสากล ชกมวยสากลก็สร้างประวัติศาสตร์โลกเลย เพราะเหตุว่าชกมวยสากลเพียงแค่สองครั้ง ไม่เคยต่อยสมัครเล่นมาก่อน ก็ได้ชิงชนะเลิศโลกแล้ว ครั้งแรกที่ขึ้นสังเวียน พวกเราต่อยกับรองแชมเปี้ยนโลกอันดับ 2 ของ WBC ชนะคะแนน ตอนนั้น ชาติชาย เชี่ยวน้อย แชมป์โลกรุ่นฟลายเวต คนที่ 2 ของประเทศไทย เป็นคนดูแลเรา เราก็เข้าไปอยู่ชั้นที่ 3 โดยปริยาย เขาก็จะให้ชิงเลยในตอนแรก ก็ไปเซ็นสัญญากับ “วิลเฟรโด โกเมซ” (นักมวยสากลชาวเปอร์โตริโก) แชมเปี้ยนโลก ราชาน็อกเอาต์อันดับ 1 ของโลก เจ้าของสมญานามบาซูก้า ชกมวย 32 ครั้ง น็อกไป 31 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง และไม่เคยแพ้ใคร ขนาดไมค์ ไทสัน ยังสู้ไม่ได้ แต่ว่าเขาบังเอิญไปเซ็นสัญญากับคนที่แพ้เราก่อน พวกเราก็เลยได้อุ่นเครื่องครึ่งหนึ่งกับนักมวยประเทศญี่ปุ่นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ไฟต์นั้นพวกเราก็ต่อยหลับคาเชือก”
“แต่พอถึงวันต่อยเราก็แพ้”
ยอดนักมวยชื่อดัง กล่าวด้วยสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไป
คราวนั้น นอกเหนือจากที่จะสร้างความหมดหวังครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่ง ที่ผู้คนให้การติดตามถึงกับขนาดรถยนต์หยุดกันเรียงรายยาวกว่า 3 กิโลเมตรระหว่างทางไปสนามสนามมวยชั่วคราว สนามกีฬากึ่งกลางจังหวัดนครราชสีมา แถมการชกมวยตอนนั้นยังเกิดโศกนาฏกรรมมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บล้มตายจากคลื่นมวลชนที่หลั่งไหลเกินพิกัดที่อัฒจรรย์จะรองรับพังทลายก่อนเริ่มการดวลหมัด
“จริงๆวันนั้นไม่เชิงสู้ไม่ได้เลย แต่ว่าก็โดนจับแพ้ตั้งแต่ยกที่ 2 แล้วเราก็มิได้กลัวด้วย แต่ว่าพวกเรา พ่อแม่เรา อัฒจรรย์พังทลาย สถานะการณ์ไม่ดี ก็ผิดหวังในเวลานั้น ก็เลยกลับมาต่อย มวยไทย อีก ชกกับยอดมวยในสมัยนั้น หนองคาย ส.ประภัสสร, เผด็จศึก พิษณุราชันย์, ดีเซลน้อย ช.ธนสุกาญจน์, รักแท้เมืองสุรินทร์ ฟอร์มการต่อยก็ดี และย้ายขึ้นอยู่กับมาอยู่ค่ายเพชรยินดี
เนื่องจากติดต่อขอซื้อตัวเรากับวิชาญน้อย พรทวี ล้าน 5 แสนกว่าบาท เราสละตำแหน่งเดิมไปแล้วเนื่องจากไม่มีคู่ต่อย เราก็เลยจำต้องผ่านรุ่นไป 2 รุ่นเลย มาต่อยสักพักก็ได้มาชิงรุ่นจูเนียร์ เวลเตอร์เวต 140 ปอนด์ ก็ได้เป็นแชมป์อีก และไม่มีใครชกอีก เป็นเราชกมวยกับยอดมวยสมัยก่อนเกือบทุกคน ที่ไม่ใช่ค่ายของเรา เราต่อยเกือบทุกคน เพียงพอไม่มีคู่ต่อย ก็ลดหุ่นไปต่อยรุ่นเฟเธอร์เวต 126 ปอนด์
“ก็ต่อยไปๆช่วงอายุราว 24-25 ฟอร์มพวกเราก็ตก เสมือนดวงเราตก ตกหมดทุกสิ่ง แพ้ต่อเนื่องกันถึง 8 ไฟต์ ตอนนั้นต่อยมวยพระราชทานฯ แพ้ๆๆถึงแม้ว่าฝึกธรรมดา ขยันฝึกเหมือนเดิมดูเหมือนจะทุกอย่าง จนกระทั่งคิดจะเลิกแล้ว เพราะว่านักมวย ถ้าแพ้ติดต่อถึง 9 ไฟต์ กล่าวได้ว่าตายเลย ตายบนเวทียังดีซะกว่า
“แต่ว่าบังเอิญก่อนที่จะเราจะต่อยครั้งที่ 9 เราไปพบหลวงพ่อคูณ เนื่องจากว่าเวลาเราไปต่อยเรามักจะแวะไปหาหลวงพ่อคูณ พวกเราเป็นศิษย์ท่าน ไปพบท่านบ่อยๆอยู่แล้ว ก็ไปพบท่าน ท่านก็บอก “ไอ้นายเอ๋ย…เวลาขึ้นอย่าหลงเด้อ เวลาลงอย่าท้อ” ไม่ต้องท้อ ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ขึ้นมาเอง ถ้าหากเราขยัน เรามุมานะพอ แล้วหลังจากนั้นก็ได้น้ำอบน้ำพรม กลับมาก็โป๊ะ ชนะน็อก รวมทั้งชนะน็อกต่อเนื่องกันอีก 8 ไฟต์ รวมเป็น 9 ไฟต์ติด ก็ได้กระโดดมารุ่นไลต์เวต 135 ปอนด์อีก โดดมาชิงชนะเลิศเวทีมวยลุมพินีก็ได้อีก 2 สมัย”
ถึงจุดนี้ สื่อต่างๆต่างพาดหัวเรื่องการกลับมาของเขา
บ้างก็ว่า “สกัดแมว 9 ชีวิต”
บ้างก็ว่า “สกัด คนเดิมกลับมาแล้ว”
นั่นเนื่องจากว่าเขาไล่ชนะทั้งยังคะแนนแล้วก็น็อกเป็นว่าเล่น ก่อนที่จะถลุงพ่วงได้ตำแหน
ติดตามข่าวสรวงการมวยและประวัติมวยต่างๆได้ที่นี้ => ข่าวมวย