ประวัติ นาโอยะ อิโนะอุเอะ

ประวัติ นาโอยะ อิโนะอุเอะ นักมวยชาวญี่ปุ่น ฉายาสัตว์ประหลาด

ประวัติ นาโอยะ อิโนะอุเอะ ต้องบอกว่า วงการมวยญี่ปุ่น ไม่ได้มีนักชกมวยสากลที่เก่ง ๆ มาให้แฟน ๆ ในแดนญี่ปุ่นได้ชมได้ภูมิใจมานานแล้ว ถึงแม้ว่าแดนซามูไรแห่งนี้จะสามารถปั้นแชมป์โลกมาได้อยู่ตลอด แต่ยอมรับเลยว่า นักชกรุ่นหลัง ๆ ก็ไม่ได้มีใครสร้างชื่อสั่นสะเทือนวงการในระดับโลก

เวลาผ่านมานาน ไม่เคยมีใครทำให้คนญี่ปุ่น ที่ชื่นชอบกีฬาการต่อสู้ ได้ชื่นใจแบบจริง ๆ เสียที จนกระทั่งล่าสุด ในยุคสมัยนี้ ก็ได้มีราชาคนใหม่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน ที่ว่ากันว่า ณ นาทีนี้ เขาเล็งไปที่เป้าใหญ่อย่าง วาซิลี่ โลมาเชนโก้ แชมป์โลกจากยูเครนเลยทีเดียว

ชื่อของเขาคือ นาโอยะ อิโนอุเอะ เจ้าของฉายา สัตว์ประหลาด ก่อนจะไปถึงเป้าหมายอย่าง โลมาเชนโก้ เขาต้องพบกับ ยอดนักชกไทย ที่ดีที่สุดอย่าง แก่นนคร จีพีพีเรือใบไข่มุก สำหรับการป้องกันแชมป์รุ่นจูเนียร์ แบนตัมเวท ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

หากถามว่า อิโนะอุเอะ เก่งมาจากไหน วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูเรื่องราวของเขากัน นาโอยะ อิโนอุเอะ pantip

ชายหนุ่มผู้นี้มาในมาดแบบ พระเอกการ์ตูนโชเนนของญี่ปุ่น ถ้าคนเคยอ่านการ์ตูนญี่ปุ่น คุณจะรู้ว่าพวกพระเอกในเรื่อง มักจะมาในรูปแบบ เด็กชายบ้าพลัง ที่จะมีพลังงานในตัวเหลือล้น นั่นคือเหตุผลที่ทำไม อิโนะอุเอะ ไม่ชอบอยู่บ้าน เขาชอบออกไปเล่นกีฬากลางแจ้งกับเพื่อน ๆ ตลอดเวลา ไม่ว่าจะฟุตบอล เบสบอล

ซึ่งในตอนนั้นชีวิตของเขาตอนเด็กยังไม่เคยขึ้นชกกับใครจริง ๆ เพราะยังเด็กมาก แต่ด้วยความเป็นคนมีพลังเหลือล้นนี่คือรากฐาน ที่ทำให้เขากลายมาเป็นนักมวยแบบไม่รู้ตัว

แล้วยิ่งลักษณะแบบเด็กที่ไม่สนใจการเรียน ก็ย่อมทำให้พ่อแม่ปวดหัวมาก ชินโงะ อิโนะอุเอะ พ่อของเขาบอกว่า นาโอยะ เกิดมามีหน้าตาหน้ารักน่าขัง จนตัวเขาเองกับภรรยา ก็มักจะเรียกเขาว่า เทวดาน้อย เป็นคำแบบที่รู้กันสองคนพ่อแม่ แต่ทั้งคู่ก็มักจะปวดหัวเพราะ นาโอยะ ทั้งแสบและซนจนไม่เหลือฉายาเทวดาน้อยเลย

ประวัติ นาโอยะ อิโนะอุเอะ พ่อแม่เปิดโอกาสให้ลูกเดินตามความฝัน ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ

ด้วยความที่ชอบเล่นกีฬา และหัดชกมวยตั้งแต่เรียนประถม นาโอยะ โชคดีที่มีพ่อและแม่เปิดโอกาสให้เขาทำอย่างเต็มที่ แม้ว่าสังคมญี่ปุ่น ค่านิยมของที่นั่น มักจะเน้นให้ลูกเป็นเจ้าเป็นนายคนในบริษัทใหญ่ มากกว่าการมาเป็นนักกีฬาหรือนักมวย (ก็เหมือนบ้าน ๆ เรา) ที่จะมีผู้ชนะเพียงคนเดียวในโลกเท่านั้น ซึ่งในแต่ละรุ่น ก็เท่ากับว่าจะมีคนล้มเหลวอีกมากมายไม่ถ้วนที่จะไปถึงจุดนั้นได้

แต่ผู้เป็นพ่อ รู้ดีว่าทำไมลูกชายเขาอยากเป็นนักสู้ เพราะมันคือเรื่องราวของ ลูกไม้ที่ตกไม่ไกลต้น ในอดีต ชินโงะ ก็เคยเป็นนักมวยสมัครเล่นมาก่อน แต่อาชีพนักชกก็ไม่ได้ไปถึงไหน เพราะเขาไม่มีความสามารถและฝึกหัดช้าไป ดังนั้นถ้าลูกชายเขาอยากเป็นนักมวย เขาเชื่อว่า ตนควรเปิดโอกาสให้ลองวัดดวงกันดู ว่านาโอยะ จะไปได้ไกลถึงไหน

เมื่อพระเอกได้รับไฟเขียวจากบ้าน ให้เดินในทางที่ตัวเองมั่นใจ เขาก็ได้ทำสิ่งที่เหมือนกับพระเอกในการ์ตูนกีฬาหลาย ๆ เรื่อง คือเอาจริงเอาจังกับมัน และบอกให้พ่อแม่รู้ว่า พวกเขาจะไม่เสียใจที่ปล่อยให้ลูกชายเป็นนักมวย

ถ้าเป็นในการ์ตูน ตามหลักการดำเนินเรื่อง พระเอกจะเป็นคนที่ฝีมือไม่เอาไหน แต่จะใช้ความพยายามเข้าแลกก่อน แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับ นาโอยะ อิโนะอุเอะ คือเขาเก่งตั้งแต่แรกเลย ไม่ต้องรอให้ลุ้นเหมือนในการ์ตูนอะไรเลย เพราะ อิโนะอุเอะ คว้าแชมป์รุ่นจูเนียร์ระดับประเทศ 2 ปี ติดต่อกัน ใน 2009 และ 2010

แล้วเรื่องราวมันสนุกอย่างไร ถ้าเขาเก่งมาแต่แรกแบบนี้ แต่เรื่องนี้เองก็มีรสชาติเกิดขึ้น เมื่อครั้งที่การชิงแชมป์เยาวชนโลก ในปี 2011 เขาก็แพ้ให้กับ ยอสวานี่ ไวเทีย นักชกชาวคิวบา ตกรอบที่ 3 ไปอย่างน่าเสียดาย และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ นาโอยะ อิโนเอะ แก่นนคร

ถ้าเราไม่เคยแพ้ หรือพลาด เราก็จะไม่รู้เลยว่าตัวเองมีจุดอ่อนตรงไหนบ้าง การพ่ายแพ้ครั้งนั้น ทำให้ นาโอยะ กลับมาทบทวนและทำอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง เขาพบว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพื้นฐาน ถ้าหากมีพื้นฐานดี จะเพิ่มอะไรตรงไหนเข้าไป ก็จะเป็นเรื่องง่ายกว่ามุ่งฝึกฝนด้านใดด้านเดียว จนเผยจุดอ่อนด้านอื่นออกมาให้คู่ชกเห็น

มันคือเรื่องของแรงบันดาลใจตลอดช่วงการฝึกซ้อมและปรับปรุงความคิดของตัวเองในทุกๆวัน ผมไม่ได้ทำอะไรที่มหัศจรรย์เลย แต่สไตล์ของผมมันก่อตัวขึ้นจากการฝึกขั้นพื้นฐานทุกวัน” อิโนะอุเอะ ว่าถึงหลักการฝึกที่ตนเองยึดถือมาตลอด

ปล่อยน้ำหนัก 3 รุ่น คว้า 3 แชมป์ เดินไปข้างหน้าเสมอ

กุญแจสำคัญคือความทุ่มเท สิ่งที่แตกต่างกันระหว่างคนๆหนึ่งที่พยายามฝึกหนักในยิม 2 ชั่วโมงทุกๆวันเป็นระยะเวลาหลายปี กับคนที่สู้แค่ครึ่งๆกลางมันต่างกันลิบลับ…ไม่ใช่แค่เรื่องมวยหรอกจะเรื่องไหนในชีวิตมันก็ได้ทั้ง และผมใช้แนวคิดนี้ในการซ้อมของผมทุกๆวัน” อิโนะอุเอะ กล่าวถึงตัวตนที่เขาเป็นมาตลอด

การเป็นเด็กเก่งแบบไม่สุด ก็ดีไปอีกอย่าง เพราะว่าเมื่อเขาเทิร์นโปรแล้ว มันทำให้เขากลายเป็นคนที่มีความกระหายชัยชนะมากจนยอมฝึกซ้อมหนัก และทิ้งชีวิตวัยรุ่นไปแบบไม่ต้องลังเล

อิโนะอุเอะ เดบิวท์ ด้วยการชกอาชีพ ในรุ่นไลท์ฟลายเวต 108 ปอนด์ หรือรุ่นเกือบเล็กสุด โดยเซ็นสัญญากับค่าย Ohashi Boxing Gym เหตุผลที่เลือกค่ายนี้ก็คือ เขาจะไม่ต้องเจอกับ มวยส้วม หรือนักมวยไร้ฝีมือที่ชกกันไปแค่แบบนั้น ชนะไปก็ไม่ได้อะไร

เจ้าของค่าย เคยเป็นถึงแชมป์โลกรุ่นมินิมั่มเวต 105 ปอนด์ หรือรุ่ยเล็กสุด ๆ อย่าง ฮิเดยูกิ โอฮาชิ ตัดสินใจมอบอภิสิทธิ์นั้นให้กับ อิโนะอุเอะ อย่างเต็มใจ อิโนะอุเอะ ยังคงเป็นคนเดิม แม้ว่าจะหยิ่งผยองชอบเรียกร้องอะไรที่ทำให้คนอื่นลำบากใจ แต่สุดท้ายเขาจะแสดงให้เห็นว่า ทำไมคุณควรให้โอกาสเขา

ครั้งแรกของอาชีพนักชก อิโนะอุเอะ เก็บนักชกชาวฟิลิปปินส์อย่าง ไครสัน โอมาเยา ด้วยการน็อคเอาต์ในยกที่ 4 ก่อนที่จะจัดการกำปั้นไทยอย่าง เงาพระจันทร์ ชูวัฒนา ปิดท้ายด้วยการสอยนักสู้เพื่อนร่วมชาติอย่าง ยูกิ ซาโนะ นักชกจาก ฟิลิปปินส์, ไทย, ญี่ปุ่น ทั้งหมดนี้โดนดาวรุ่งพุ่งแรงสอยเกลี้ยงภายในระยะเวลาแค่ 6 เดือนเท่านั้น

สิ่งสำคัญของการเป้นนักมวย คือห้ามอยู่กับที่ บนเวที คุณต้องเล่นฟุตเวิร์กตลอดเวลา เพื่อหาจังหวะ หลบหลีก และโจมตีครั้งสำคัญ ส่วนนอกสังเวียน ก็ไม่ต่าง เมื่อมีโอกาสต้องขยับรุ่น ก็ต้องทำให้ได้ เพื่อให้ได้ทั้งเงินและชื่อเสียง เมื่อ อิโนะอุเอะ ที่เป็นคนเลือกเอง ทุกครั้งที่ชนะ เขาจะไม่หันมองกลับไปข้างหลัง หรือเสียเวลาให้กับนักชกหางแถว ที่ต่อให้ชนะแล้วก็ไม่ทำให้ตัวเขาเก่งขึ้นมาได้

หลังจากต่อยรุ่น ไลท์ฟลายเวต อยู่ 2 ปี เขาก็ท้าข้ามทีเดียว 2 รุ่น ด้วยการขอชิงแชมป์กับ โอมาร์ อันเดรส นาวาเอซ เจ้าของแชมป์โลกรุ่นจูเนียร์แบนตัมเวต 115 ปอนด์ ของ WBO ทันที

นับว่าเป็นอะไรที่กล้าและซ่า เพราะตัวของ นาวาเอซ ป้องกันแชมป์รุ่นนี้มาได้ตั้ง 11 ครั้ง รวมถึงเคยเป็นแชมป์รุ่นฟลายเวต 112 ปอนด์ ของสถาบันเดียวกันนานถึงเกือบ 8 ปี ซึ่งเป็นรุ่นที่ อิโนะอุเอะ ข้ามไปเลยอีกด้วย แม้จะมีข้อกังขาอยู่บ้างตรงที่ว่า เขาจงใจหนียอดมวยรุ่นฟลายเวตในตอนนั้นอย่าง โรมัน กอนซาเลซ กับ ฮวน ฟรานซิสโก เอสตราด้า หรือไม่

คลื่นลูกใหม่มักจะไล่คลื่นลูกเก่าเสมอ 

เป็นไปตามวัฏจักร นาวาเอซ แก่ตัวลง รอวันเจอกับคนที่เก่งพอ ที่จะมาชิงเข็มขัดแชมป์โลกของเขาไป หลังจากรอมา 12 ปี เขาก็ได้เจอกับคนที่เขารอแล้ว หลังจากระฆังยกแรกดังไม่กี่วินาที ผู้ท้าชิงในวันนั้นก็ใช้การชกตัดลำตัว ความหนักหน่วงทำให้ นาวาเอซ ออกอาการ และสุดท้ายก็โดนตามมาเก็บงานในยกที่ 2 คว้าแชมป์โลกเส้นที่ 2 ได้สำเร็จ แม้จะเพิ่งเคยชกอาชีพไปเพียง 8 ไฟต์เท่านั้น

หลังจากนั้นเขาก็ป้องกันแชมป์ได้ 7 สมัย ก่อนจะขยับรุ่นและเท้าชิงกับ เจมี่ แม็คดอนเนลล์ เจ้าของแชมป์โลกรุ่นแบนตัมเวต 118 ปอนด์ ของสถาบัน WBA ซึ่งในไฟต์นี้ถือว่าเป็นไฟต์สำคัญมาก

แม็คดอนเนลล์ เป็นแชมป์ที่ชกมาในเวทีหลายประเทศทั้ง สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และเป็นแชมป์ที่ทุกคนเห็นๆ กันว่ามีฝีไม้ลายมือไม่ธรรมดา หาก อิโนะอุเอะ คว่ำ แม็คดอนเนลล์ ได้มันจะเป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งสำคัญของเขาเลยทีเดียว

ไฟต์นั้นจบลงไวแต่ทำให้ทุกคนเห็นภาพชัดเจนมากที่สุดไฟต์หนึ่งว่า อิโนะอุเอะ เป็นมวยฝีมือ เนื่องจากเขาใช้เวลาแค่ยกเดียวน็อคใส่ แม็คดอนเนลล์ โดยหมัดที่ทำให้แชมป์โลกหมดสภาพคือหมัดที่เล็งไปที่กระโหลกอย่างตั้งใจ ซึ่งไม่ใช่ของง่ายแน่นอน จบไฟต์นั้นเขาได้ฉายาจากสื่อว่า มอนส์เตอร์ หรือ สัตว์ประหลาด ทันที

สก็อตต์ กราเวอสัน (Scott Graveson) กูรูจาก Boxing Prospects ถึงกับเอาสิ่งที่เขาเห็นในวันนั้นไปวิจารณ์และเขียนลงเว็บไซต์ในหัวข้อที่ชื่อว่า “นาโอยะ อิโนะอุเอะ จะเป็นแชมป์โลกดาวรุ่งที่ดีที่สุดได้หรือไม่?” (Is Naoya Inoue the World’s Brightest Prospect?) นาโอยะ อิโนเอะ ศรีสะเกษ

จากที่ผมเห็น อิโนะอุเอะ เป็นคนที่มีเนื้อตัวดีมาก ทักษะถือว่าครบเอาเรื่อง เป็นมวยบ็อกซิ่งที่กอดเก่งเทคนิคดี ที่สำคัญหมอนี่ควบคุมพื้นที่รอบตัวได้ดีมาก เขากดดันให้คู่ชกก่อความผิดพลาด และเมื่อเขาเห็นรอยปริแตกเพียงเล็กน้อย เขาจะใช้ประโยชน์จากได้ในท้ายที่สุด …”

จริงอยู่มีนักมวยแบบนี้เยอะ และมีหลายคนประสบการณ์มากกว่าเขา แต่ผมรู้สึกได้ว่าหมอนี่จะมีอะไรที่พิเศษหากได้รับการพัฒนาที่ถูกต้อง เขาจะกลายเป็นนักชกที่สมบูรณ์แบบ โดยมีทั้งความสมดุลของความสามารถและร่างกายที่จะเป็นกุญแจสำคัญ” สก็อตต์ กราเวอสัน บรรยายถึงสิ่งที่เขาสัมผัสได้จากการดูมวยไฟต์นั้น

เป็นแชมป์โลก 3 รุ่นแล้ว แต่ก็ยังไม่พอ ไต่ระดับขึ้นมาเรื่อย

ตอนนี้เขาปล่อยน้ำหนักจนกลายเป็นแชมป์โลก 3 รุ่นแล้ว แต่ก็ยังไม่พอ หลังจากคว่ำทั้ง นาวาเอซ, แม็คดอนเนลล์ เรียบร้อย อิโนะอุเอะ ขยับระดับไปลงแข่งขันในรายการ World Boxing Super Series ที่รวมยอดนักมวยรุ่นแบนตัมเวตไว้ด้วยกันถึง 8 คน ต่อยกันแบบแพ้คัดออก ที่สำคัญ หลายคนมีเข็มขัดแชมป์อยู่กับตัว หากมีใครเอาชนะได้ ก็จะกลายเป็นแชมป์โลกทันที

รอบ 8 คน ชนะน็อก ฮวน คาร์ลอส ปายาโน่ ตั้งแต่ยกแรก ป้องกันแชมป์โลก WBA ของตัวเองได้สำเร็จ ก่อนเข้าสู่รอบ 4 คนสุดท้าย ชนะน็อก เอ็มมานูเอล โรดริเกซ ยกสอง คว้าแชมป์รุ่นเดียวกันของ IBF มาอีกเส้น และสุดท้ายรอบชิงชนะเลิศ เขาจะต้องเจอกับบอสของรุ่นอย่าง โนนิโต้ โดแนร์ เจ้าของฉายา “ฟิลิปปินส์ แฟลช” ซูเปอร์แชมป์รุ่นแบนตัมเวตของ WBA ที่ทุกคนให้การยอมรับว่า “เก่งจริง”

อิโนะอุเอะ ค่อย ๆ ไต่ขึ้นมาเรื่อยจนได้เจอกับของจริง นัมเบอร์ วัน ของรุ่นเสียที ศึกนี้เป็นศึกที่หลายคนมองว่า อิโนะอุเอะ จะได้เจอกับอะไรที่แปลกใหม่ เพราะก่อนหน้านี้เขาเป็นฝ่ายไล่ชกคู่แข่งมาโดยตลอด แต่ โดแนร์ เป็นมวยที่ทั้งหนักทั้งเร็ว มีดีกรียืนยันต่างมาก ๆ มาย ทุกคนอยากจะเห็นว่าหาก อิโนะอุเอะ ที่เคยแต่ต่อยคนอื่นได้ลองกินหมัดของ โดแนร์ สักทีจะเป็นอย่างไร นาโอยะ อิโนเอะ แพ้

ผลก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ อิโนะอุเอะ มีแผลแตกเหนือตาขวาเป็นแผลฉกรรจ์จากฤทธิ์หมัดของ ฟิลิปปินส์ แฟลช เลือดกำเดาไหลไม่หยุด ถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนักมวย เพราะมันทำให้เขาหายใจลำบาก จะหายใจทางปากก็ติดฟันยางอีกต่างหาก

แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมคือการมีสมาธิและการปล่อยหมัดที่แม่นยำ สวนได้หลายจังหวะ ออกแต่ละมัดทำเอาโดแนร์ซวนไปเซมา ทั้งสองวัดใจกันว่าใครจะลงและยื้อกันไปได้ถึงยก 11 อิโนะอุเอะ ที่มีหมัดต่อยลำตัวที่เป็นอาวุธหนักกดสูตรติดและจัดใส่ โดแนร์ ไปเต็ม ๆ และได้นับ

ณ นาทีนั้นคนดูเฮกันทั้งสนามแล้ว(ชกที่ญี่ปุ่น) เพราะหมัดแบบนี้ถือเป็นไพ่ตายของ อิโนะอุเอะ ถ้าลองได้ปล่อยใส่ใครจังๆ ยังไงก็จบเกม ในวันนั้น โดแนร์ กลับทนได้และไว้ลายดีกรีแชมป์ลุกขึ้นมาสู้จนครบยก ถึงแม้ว่าจะแพ้แต่ก็แพ้แบบสมศักดิ์ศรี

เขายังคงเป็นสัตว์ประหลาดเหมือนเช่นเคย หลังจากจบไฟต์นี้ ก็ตัดสินใจทำในสิ่งที่หลายคนอยากเห็น ไปเป็นมวยแม่เหล็กที่อเมริกา เพื่อลบข้อสงสัยที่ว่าเขาเป็นนักมวยที่เก่งในบ้านเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาเคยไปชิมลางป้องกันแชมป์รุ่นจูเนียร์แบนตัมเวตของ WBO ที่แดนลุงแซม 1 ครั้งเมื่อปี 2017 โดยเอาชนะ อันโตนิโอ นีเวส ยกที่ 6 ในศึกเดียวกับที่ ศรีสะเกษ นครหลวงโปรโมชั่น ย้ำแค้น โรมัน กอนซาเลส นั่นเอง

คาเย เซาเออร์แลนด์ โปรโมเตอร์ผู้จัดแข่งขันรายการ WBSS บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าพลังหมัดของ อิโนะอุเอะ หากเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ต้องบอกว่าหนักกว่า แอนโธนี่ โจชัว ในรุ่นเฮฟวี่เวต, เกเนดี้ โกลอฟกิ้น และ ซาอูล อัลวาเรซ ในรุ่นมิดเดิลเวตด้วยซ้ำไป

นักชกที่ผมเอ่ยชื่อมาทั้งหมดต่างก็น่านับถือ แต่อิโนะอุเอะเป็นมวยหมัดหนักที่น่าจะเก่งที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่น,ในเอเชีย หรือในอเมริกา ผมว่าน่าจะเก่งที่สุดในโลกแล้ว” คาเย ว่าเอาไว้แบบนั้น เพียงแต่ต้องรอการพิสูจน์ ซึ่งโชคดีที่ อิโนะอุเอะก็ต้องกันบททดสอบนี้พอดี

 

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : UFABET , อนิเมะ

อ่านเพิ่มเติม => ฝึกกล้ามท้อง นักมวย