ประวัติ ตะวันฉาย ยอดมวยระดับซูเปอร์สตาร์ วัย 21 ปี นักกีฬา ONE Championship
ประวัติ ตะวันฉาย ซ้ายดารา ตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม นักมวยหน้าตาดี ยอดมวยระดับซูเปอร์สตาร์ ด้วยวัย 21 ปี ก็แจ้งเกิดบนเวทีระดับโลก อย่าง วัน แชมเปียนชิพ มาแล้ว ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาดูเรื่องราวของเขากัน
ตะวันฉาย มีชื่อจริงว่า “ณรงค์ศักดิ์ แก้วมาลา” หรือชื่อเล่นว่า “กัน” เป็นคน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เกิดเมื่อวันที่ 7 เม.ย.42 เป็นบุตรชายของ นายบุญสงฆ์ แก้วมาลา กับ นางธัญชนก จำปาทอง มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน ตนเองเป็นคนเล็ก
ด้วยความที่ ตะวันฉายชอบดูมวยมาตั้งแต่เป็นเด็ก เมื่ออายุ 7 – 8 ขณะที่พ่อขับรถผ่านเวทีมวยเทพประสิทธิ์ พัทยา ตะวันฉาย เห็นนักมวยกำลังชกกันทำให้อยากชกบ้าง จึงขอพ่อให้พาไปฝึกหัดมวยที่ ค่ายเพชรรุ่งเรือง ของ “ครูนุ” วิษณุชัย เพชรรุ่งเรือง อดีตมวยดังเมืองพัทยา ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากบ้านของตะวันฉายเลย โดยมี “อนันต์ศักดิ์ เปียปลื้ม” เป็นครูมวยคนแรก
หลังจากได้ฝึกหัดมวย มาได้สักระยะ ก็เริ่มขึ้นชกโชว์ โดยเขาได้ชกมวยครั้งแรก ในบาร์แห่งหนึ่งแถวชายหาดของเมืองพัทยา ในนาม “จตุคาม เพชรรุ่งเรือง” การต่อสู้ครั้งแรกของหนุ่มน้อย เปิดตัวอย่างสวยงาม โดนเขาอาชนะคู่ชกเพียงยกแรก จากการเตะซ้านอย่างเดียว ชัยชนะแรกได้รับเงินรางวัลจากชาวต่างชาติราว 800 บาท ในวันนั้น
จากนั้น จตุคาม ก็พัฒนาฝีมือขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยการเดินสายต่อยมวยเด็ก ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี และขยายวงกล้างไปทั่วภาคตะวันออก ต่อด้วยอีสาน จนกระทั่งเข้ามาชกในกรุงเทพ ฯ ที่สนามมวยลุมพินี เมื่ออายุ 14 ปี ในน้ำหนักตัวประมาณ 35 – 36 กิโลกรัม
เส้นทางอาชีพนักมวย ของตะวันฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม
ระหว่างที่ ตะวันฉาย เดินสายชกมวยปกลับ ระหว่างกรุงเทพ – ชลบุรี ราว 2 ปี เขาก็ได้รู้จักกับ พระจันทร์ฉาย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม ซึ่งเป็นทั้งไอดอลและพี่ชาที่ตนนับถือ จึงขอไปซบ ค่าย พี.เค.แสนชัยฯ ด้วย โดยให้ พระจันทร์ฉาย ช่วยพูดคุยกับ “เสี่ยแขก” สมชาย เทศรุ่งเรือง หัวหน้าค่ายมวยให้
หลังเรียนจบ ม. 3 ที่โรงเรียนเมืองพัทยา 9 จตุคาม จึงย้ายมาเรียนต่อระดับ ปวช. ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการราชดำเนิน กรุงเทพฯ โดยอยู่ภายใต้การดูแลของค่ายมวย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม และใช้ชื่อ “ตะวันฉาย” นับแต่นั้น (พระจันทร์ฉาย เป็นคนตั้งให้) โดยปัจจุบัน ตะวันฉาย จบการศึกษาระดับ ปวส.สาขาการตลาด และกำลังตั้งเป้าจะเรียนให้สำเร็จปริญญาตรีด้านกฎหมาย เพราะอนาคตอยากรับราชการตำรวจ
เมื่อเข้ามาอยู่ค่ายมวย พี.เค.แสนชัยฯ ดังที่ตนใฝ่ฝัน ตะวันฉาย ก็ไม่ทำให้ค่ายผิดหวัง เขามุ่งมั่นตั้งใจฟิตซ้อมอย่างเต็มที่ โดยได้แรงผลักดันจากเหล่านักมวยชั้นนำในค่าย และยังได้ “สมหวัง มาทอง” เทรนเนอร์คนเก่งช่วยสอนเชิงให้ ยิ่งทำให้มีความกระตือรือร้นมากขึ้นเป็นทวีคูณ
ความสำเร็จแรกของ ตะวันฉาย ในเส้นทางอาชีพนักมวย เริ่มต้นด้วยการครองแชมป์ประเทศไทย รุ่น 126 ปอนด์ ในปี 2560 ตอนอายุ 18 ปี จากนั้นคว้าแชมป์สมาคมกีฬามวยไทยนายขนมต้ม รุ่น 140 ปอนด์ ในปีต่อมา
เท่านั้นยังไม่พอ ปี 2561 ถือเป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของ ตะวันฉาย เมื่อเขาได้รับรางวัลเกียรติยศอย่างท่วมท้นในฐานะคลื่นลูกใหม่ของวงการที่กำลังสร้างฟอร์มอย่างร้อนแรง โดยคว้ารางวัล ยอดมวยสยามกีฬาอวอร์ด, นักมวยยอดเยี่ยมสนามมวยเวทีลุมพินี, นักมวยขวัญใจมหาชนยอดเยี่ยม, รางวัลนักมวยไทยอาชีพดีเด่น และ นักมวยไทยอาชีพดีเด่นการกีฬาแห่งประเทศไทย
ประวัติ ตะวันฉาย ที่มาของฉายา “ซ้ายดารา” และไอดอลต้นแบบที่เจริญรอยตาม
ตะวันฉาย เคยได้รับฉายา “ซ้ายเพอร์เฟกต์” เป็นฉายาแรก แต่พอหลังจากเอาชนะ “กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย” เมื่อเดือนกันยายน 2561 ก็ได้รับฉายาใหม่จากสื่อมวลชนว่า “ซ้ายดารา” ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าน่าจะเป็นเพราะตนเองมีลักษณะรูปร่างหน้าตาขาว ตี๋ สูงยาว ดูสะอาดสะอ้าน แรก ๆ เจ้าตัวก็เขินอยู่เหมือนกันแต่ไป ๆ มา ๆ ก็รู้สึกชอบฉายานี้
นักมวยทุกคนย่อมมีไอดอลของตนเอง ตะวันฉาย ก็เช่นกัน ยอดมวยผู้ยิ่งใหญ่ที่มีส่วนเป็นเบ้าหลอมและเป็นแบบอย่างให้เขาเจริญรอยตามจนแจ้งเกิดเฉิดฉายในวงการได้ คือลูกพี่ใหญ่ประจำค่ายอย่าง “แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ซึ่ง ตะวันฉาย ชื่นชอบที่เขาเป็นมวยฝีมือ อาวุธหนักหน่วง และมีเทคนิคแพรวพราว
รายต่อไปไม่ใช่ใครที่ไหน คนที่นำเขาเข้าสู่อ้อมอกค่าย พี.เค.แสนชัยฯ คือ “พระจันทร์ฉาย” และสุดท้ายคือศิษย์พี่ร่วมค่ายผู้เป็นจอมเก๋าแห่งวงการมวยไทยอย่าง “ปกรณ์”
เจ้าของแข้งซ้ายเพชฌฆาต จัดว่าเป็นมวยซ้ายสุดอันตรายอีกคนของวงการ ด้วยการสาดแข้งซ้ายได้รวดเร็วและหนักหน่วง โดยอาวุธเด็ดชนิดนี้เคยถูกใช้เผด็จศึกมวยดังอย่าง แสงมณี (ส.เทียนโพธิ์) ส.กาแฟมวยไทย มาแล้ว นอกจากนี้ยังมี กุหลาบดำ สจ.เปี๊ยกอุทัย รวมถึง หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ต่างก็ได้ลิ้มรสพิษสงแข้ง ซ้ายดารา กันถ้วนหน้า
ไม่เพียงเรื่องแข้งอันลือชื่อ ตะวันฉาย ยังซุ่มซ้อมเสริมอาวุธหมัด เพิ่มสปีดการชกให้เฉียบคมยิ่งขึ้น ถึงขั้นลงแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นชิงแชมป์ประเทศไทยปี 2563 เพียงครั้งแรกเจ้าตัวก็คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 เหรียญทองแดงติดตัวกลับมาด้วย
งานอดิเรกชอบสะสมพระเครื่อง เรื่องทั่วไปเกี่ยวกับ ตะวันฉาย ที่หลายคนอาจไม่รู้
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ตะวันฉาย เป็นนักสะสมพระเครื่องตัวยงคนหนึ่งของวงการมวย เขามีพระเครื่องเก็บสะสมไว้อยู่ร่วมร้อยกว่าองค์ โดยรุ่นที่เจ้าตัวรักและหวงแหนที่สุดคือ “หลวงปู่ทวด วัดประสาทบุญญาวาท ปี พ.ศ.2505” ซึ่งได้รับมาจาก อนันตศักดิ์ เปียปลื้ม ครูมวยคนแรก ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อคนที่สอง ตั้งแต่ตอนเขาอายุ 12 ปี พระเครื่ององค์นี้จึงมีคุณค่าทางใจ เตือนสติให้เขาทำดี และย้ำเตือนว่าเขาเป็นศิษย์มีครู
นอกจากเรื่องมวย และพระเครื่องแล้ว เขายังชอบเลี้ยงไก่ชน ซึ่งอย่างที่รู้กันว่า “ไก่ชน” มักถูกจับคู่กับ “นักมวย” อย่างแยกกันไม่ออก ด้วยบทบาทของการต่อสู้เดิมพันชัยชนะบนสังเวียนการแข่งขัน มีนักมวยไทยหลายคนที่เลี้ยงไก่ชนเป็นงานอดิเรก บ้างก็จริงจังถึงขั้นเปิดซุ้มไก่ชนของตนเอง ซึ่ง ตะวันฉาย ก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในฐานะเจ้าของ “ซุ้มไก่ชนซ้ายดาราตะวันฉาย” ตั้งอยู่ที่เมืองพัทยาบ้านเกิด ซุ้มนี้ต่อยอดมาจากพี่ชายที่เคยทำไว้ก่อน จากนั้นเจ้าตัวก็ขยายกิจการเป็นของตนเองได้เกือบปี ปัจจุบันมีไก่ชนอยู่ร่วมร้อยกว่าตัวทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : ดูซีรี่ย์ , แทงบอลโลก
อ่านเพิ่มเติม => แซมโบ้ (Sambo)