นักมวยสายเอนเตอร์เทน นาซีม ฮาเหม็ด นักชกเอ็นเตอร์เทนเนอร์นัมเบอร์วัน

นักมวยสายเอนเตอร์เทน นาซีม ฮาเหม็ด คือนักมวยที่ทำให้ทุกไฟต์ที่เขาขึ้นชก สนุกสนานตื่นเต้นที่สุด ไม่ใช่เพราะลีลาการชก ต่อยทีเดียวร่วงแบบ ไมค์ ไทสัน ไม่ใช่มวยอัจฉริยะแบบ มูฮัมหมัด อาลี และไม่ได้มีเทคนิคและความรวดเร็วเหมือนกับ แมนนี่ ปาเกียว แต่เขาคือ “มวยเอ็นเตอร์เทน” ตัวจริงเสียงจริง

กล่าวถึงประวัติของ ฮาเหม็ด เขาเป็นชาวอังกฤษเชื้อสายเยเมน และนับถือศาสนาอิสลาม เนื่องจากปู่และพ่อของฮาเหม็ดได้อพยพมาอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่ฮาเหม็ดยังไม่เกิด จนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นมาพร้อมกับการโดนเหยียดสารพัดจากคนท้องถิ่น อีกทั้งยังมักโดนตำรวจเข้าค้นตัวบ่อยๆ ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้มีความผิดอะไร จึงเป็นความแค้นเล็กๆ ที่เป็นจุดเปลี่ยนให้เขาหันมาชกมวยตั้งแต่อายุ 7 ขวบ

ฮาเหม็ด เริ่มต้นการชกมวย ในรุ่นฟลายเวท เนื่องจากฐานะทางบ้านยากจนมาก จนกระทั่ง 3 ปีผ๋านไป ฮาเหม็ด ก็ได้แชมป์โลกครั้งแรกในรุ่นเฟเธอร์เวท ขององค์กรมวยโลก (WBO) ด้วยการคว้ำน็อก สตีฟ โรบินสัน ในยกที่ 8 จากนั้นชื่อเสียงของ ฮาเหม็ด ก็ได้เพิ่มพูนขึ้น จากสไตล์การชกที่ไม่มีสไตล์ และท่าทีที่ยียวนคู่ชกอยู่ตลอดเวลา กระนั้น ฮาเหม็ด ก็นับได้ว่าเป็นนักมวยที่มีหมัดหนักมาก เพราะสามารถเอาชนะน็อกคู่ชกได้อย่างเด็ดขาดอยู่เสมอ ๆ ทั้ง ๆ ที่สไตล์การชกของฮาเหม็ดนั้นแทบไม่มีเค้า ว่าจะเอาชนะคู่ชก ด้วยการน็อกเอ้าท์ได้เลย ซึ่งทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นจุดขายให้แก่ ฮาเหม็ด ผ่านการโปรโมตของโปรโมเตอร์ชาวอังกฤษ แฟรงก์ วอร์เรน และทำให้ ฮาเหม็ด กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ ในวงการมวยโลก ในระยะเวลาไม่นาน

นักมวยสายเอนเตอร์เทน

อะไรที่ทำให้ นักมวยสายเอนเตอร์เทน ที่มีเข็มขัดแชมป์การันตี กลับโดนมองข้าม

นอกจากเรื่องของความยียวนคู่ชก จนกลายเป็นที่หมั่นไส้ของผู้คนแล้ว สิ่งหนึ่งที่น่าทึ่งของ ฮาเหม็ด คือเขามักใช้ความเร็วของหมัดและการสืบเท้า เดินเข้าออกอย่างรู้จังหวะ เขาชกโดยไม่ตั้งการ์ด ซึ่งเป็นสไตล์เดียวกับ มูฮัมหมัด อาลี ในช่วงที่พีกที่สุดเคยทำ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า นาซีม คือนักชกที่มีความมั่นใจในตนเองมาก และยังมีการตั้งฉายาตัวเองว่า “เจ้าชาย” จนแฟนมวยคุ้นเคยชื่อ กลายเป็น ปริ๊นซ์ นาซีม ฮาเหม็ด เลยทีเดียว

“คำว่า นาซีม ในภาษาอาหรับแปลว่าสายลมที่อ่อนโยน ผมไม่ชอบ มันติ๋มไป ผมต้องการชื่อที่สวยงามและคนจดจำ เจ้าชายนี่แหละเหมาะที่สุด เพราะในตอนจบนั้นเจ้าชายจะได้เป็นราชาเสมอ”

แฟร้งค์ วอร์เรน โปรโมเตอร์ชื่อดังของอังกฤษยังยอมรับว่า แม้เขาจะทำมวยมานาน แต่ก็ยังไม่เคยเจอนักมวยคนไหนที่มีลีลาการต่อยได้ตื่นเต้นเร้าใจเท่ากับ นาซีม ฮาเหม็ด มาก่อนเลยในชีวิต

“บนเวทีหมอนี่คือนักมวยที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ผมเคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเขาในสมัยที่เขาขึ้นมาใหม่ ๆ ตอนนั้นผมบอกได้เลยว่าหมอนี่จะเป็นโคตรมวยในอนาคตได้อย่างแน่นอน” วอร์เรน กล่าวแบบนั้น

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีหลายคนกล่าวถึงความเก่งกาจของ ฮาเหม็ด มากมายขนาดนั้น แถม ฮาเหม็ด ยังเป็นเจ้าของ แชมป์โลกรุ่นเฟเธอร์เวต แทบทุกสถาบัน (IBO, WBC, WBO และ IBF) แต่กลับกลายเป็นว่า เมื่อเวลาผ่านไป แฟนมวยหลายคนเริ่มสงสัยในตัวเขาว่า นาซีม ฮาเหม็ด เก่งจริงหรือไม่ บ้างก็บอกว่าเป็นแค่มวยปาหี่คนดู

นักมวยสายเอนเตอร์เทน

ทำไมบรรดาเซียนมวยถึงมองว่า ฮาเหม็ด เป็นมวยสร้าง

สาเหตุที่ผู้คนไม่ชอบในตัวของ นาซีม ฮาเหม็ด ก็คือเขาเป็นนักมวยที่น่าหมั่นไส้เกินไป โดนเฉพาะการยียวน หัวเราะเยาะคู่ต่อสู้ทุกครั้ง ที่โดนหมัดของเขา ทำให้หลายใครคนไม่ชอบใจ เรียกได้ง่าย ๆ ว่าเรียกตีน จนนำมาซึ่งการวิจารณ์ว่าเขานั้นไม่ใช่นักมวยของจริง เป็นแค่มวยโชว์ ปาหี่ ต้มคนดู ที่พวกโปรโมเตอร์จัดขึ้นเท่านั้น

แฟนมวยถึงกับบอกว่าเขาได้ชกแต่กับพวก มวยส้วม หรือหมูที่จ้างมาให้แพ้เขาโดยเฉพาะ เพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาต ซึ่งนักวิจารณ์และแอนตี้แฟนของ ฮาเหม็ด ยังบอกอีกว่า สไตล์การชกที่ไม่มีการตั้งการ์ดและกวนประสาทคู่ชกของเขานั้น สามารถนำมาใช้ได้กับมวยส้วมเท่านั้น

เหตุผลที่ทุกคนมองว่า ฮาเหม็ด เป็นมวยสร้างและพาลไปถึงการหมั่นไส้และหยามเหยียด เกิดจากการที่เขามักจะสะสมสถิติจากนักมวยไร้อันดับ เช่น ซาอิด ลาเวล, โรมิจิโอ โมลิน่า, บิลลี่ ฮาร์ดี้, ดาเนี่ยล อาลิเซีย, โฮเซ่ บาดินโญ่ และ ฮวน เกราร์โด้ นี่ส่วนหนึ่งของนักมวยที่หลายของมองว่า เป็นนักมวยส้วม เอามาให้ ฮาเหม็ด ปั่นสถิติชนะ

ตัวฮาเหม็ดเองก็รู้ดี ในเรื่องนี้และต้องการพิสูจน์ตัวเองเช่นกัน ในศึกที่สหรัฐอเมริกาซึ่งเขาต้องชกกับ เควิน เคลลี่ นักชกที่สถิติดีที่สุดเท่าที่เขาเคยเจอ (ชนะ 47 แพ้ 1 เสมอ 2) ไฟต์นั้น ฮาเหม็ด ถูก เคลลี่ ชกร่วงจนเสียนับไปถึง 3 ครั้ง (แต่ไม่ถูกจับแพ้ เนื่องจากกฎมวยสากล) เหตุการณ์นั้น ทำให้แฟนมวยฮือฮากันขนาดหนัก แต่ท้ายที่สุดเขาก็พลิกกลับมาเป็นฝ่ายส่งคู่ต่อสู้ลงไปนับ 3 ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายคือการนับสิบ ชนะน็อคในยก 4 จนได้

ชัยชนะของ ฮาเหม็ด ทำให้ ฮาเหม็ด โดนหมั่นไส้ขึ้นไปอีก ทั้ง ๆ ที่เขาชนะ แต่ทุกคนก็ยังไม่ยอมรับ และว่าถ้าเขาเจอคนที่เก่งกว่านี้อีก เขาคงไม่รอดแน่ หากมองจากจุดนี้ มันก็แสดงให้เห็นอย่างได้ชัด ว่าเขาเป็นนักชกที่ถูกเกลียดมากที่สุดในยุค และมีคนรอดูเขาล้มมากมาย หากเกิดพลาดท่าขึ้นมาจริง ๆ

นอกจากบนเวทีจะยียวนแล้ว ฝีปากของเขาก็ไม่ธรรมดา หลังจากเขาชนะ เคลลี่ ก็ถามทุกคนว่า “โอเคหรือยัง? จะยอมรับหรือได้หรือยังว่าผมเป็น นักชกทื่เก่ง” ซึ่งเขาก็ถามไปอย่างนั้นแหละ เพราะเขาไม่สนอยู่แล้วว่าใครจะคิดยังไง เพราะเขาคิดว่าเขาเก่งมากและทะเยอทะยานมากไม่แพ้กัน

“ผมเป็นนักสู้ที่เก่งนะ แต่ผมไม่หยุดแค่นี้แน่ ผมอยากพิสูจน์ตัวเองมากขึ้นกว่านี้ แล้วเดี๋ยวผมจะแสดงให้ดูว่าผมไม่ได้พูดเล่น” ฮาเหม็ด ว่าไปก็ยิ้มไป

นักชกที่แฟนมวยหมั่นไส้ ผู้คนต่างรอคอยวันที่เขาแพ้ และวันนั้นก็มาถึง

35 ครั้งที่ ฮาเหม็ด ได้ชัยชนะรวด ไม่มีแพ้ ไม่มีเสมอ และเป็นการชนะน็อคถึง 31 ครั้ง  แต่ที่สุดแล้วคำว่าล้างแค้น รอกี่ปีไม่มีวันสาย คือสิ่งที่เป็นจริงเสมอ และในที่สุดหลังจากไร้พ่ายมา 9 ปี สุดท้าย ฮาเหม็ด ก็ได้เจอนักมวยที่ทุกคนพร้อมยอมรับว่าเป็นยอดมวยระดับโลกของจริง เขาคนนั้นคือ มาร์โก อันโตนิโอ บาร์เรร่า นักชกเม็กซิกันเจ้าของฉายา “ฮูลิโอ เซซาร์ ซานเชซ” คนต่อไป

ไฟต์ดังกล่าวถูกจัดขึ้นในเดือน เม.ย. 2001 ที่ MGM Grand ในลาสเวกัส บาร์เรร่า เป็นเหมือนตัวแทนของฝั่งแอนตี้ฮาเหม็ด จึงทำให้เขามุ่งมั่นจะเป็นนักชกคนแรกที่คว่ำแชมป์โลกจากอังกฤษคนนี้ให้ได้

คำกล่าวตามสไตล์ของ ฮาเหม็ด ส่งผลถึงคู่ชกของเขา ก่อนชก 8 สัปดาห์ บาร์เรร่า ทำน้ำหนักขึ้นจากรุ่นซูเปอร์แบนตั้มเวตมาเพื่อชกไฟต์นี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังฝึกหนักมาก สกาย สปอร์ตส์ สื่อจากอังกฤษถึงกับลงทุนไปเก็บภาพการซ้อมของ บาร์เรร่า และเขียนสกู๊ปขึ้นมาว่า ก่อนชกกับ นาซีม ไฟต์นี้ บาร์เรร่า อยู่ในสภาพที่เนื้อตัวดีที่สุดในชีวิตนักมวย

แถมก่อนขึ้นชก บ่อนในเวกัสเปิดให้ก็ เดิมพันมวย เป็นต่อด้วยราคาแทง 3 จ่าย 1 แต่เอาเข้าจริงเมื่อขึ้นเวที กลับกลายเป็นความ ความเป็นต่อเทไปฝั่ง บาร์เรร่า หมดหน้าตัก เพราะ ฮาเหม็ด ต่อยไม่โดนเป็นส่วนใหญ่ แถมยังโดนหมัดของ บาร์เรร่า ไปหลายที กว่า ฮาเหม็ด จะปรับเข้าจังหวะได้ก็เล่นเอาอ่วมจนแฟนมวย เฮไปหลายหน สุดท้าย ฮาเหม็ด ก็แพ้คะแนนไป และทำให้เหล่า Hater ของเขาได้สะใจกันสักที

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : ดูอนิเมะออนไลน์ แทงบอลยูโร

อ่านเพิ่มเติม => โลแกน พอล