นักชกแก่แต่เก๋า ใครบ้างคือสุดยอดนักชก ที่ยังโลดแล่นบนสังเวียนแม้อายุมาก
นักชกแก่แต่เก๋า ปกติแล้วช่วงเวลาที่พีกที่สุดของ นักมวยชาย จะอยู่ระหว่างอายุราว ๆ 25 ถึง 35 ปี หลังจากนั้นสังขารก็จะโรยราไปตามกาลเวลา มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ สำหรับทุกคน อย่างไรก้ตาม ยังมี นักมวย จำพวกหนึ่งที่ยังมีประสาทสัมผัสที่ดีเหนือกว่าใครอื่น ๆ พวกเขาจะรู้สภาพร่างกายของตัวเอง และหันไปพึ่งเทคนิค รวมทั้งทักษะเพื่อทดแทนพละกำลังที่ได้ถดถอยลงไป
ซึ่งนักมวยประเภทนี้ ยิ่งอายุมากขึ้นก็มีแต่เฉลียวฉลาด เจนสังเวียน และมีประสบการณ์มากมาย จนสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธเพื่อต่อกรเอาชนะกับนักมวยรุ่นน้องที่ยังสดใหม่หนุ่มแน่นและแข็งแรงกว่าลงได้ หลายคนอาจคิดว่า กีฬามวย คือกีฬาของคนหนุ่ม แต่สำหรับนักชกเหล่านี้ พวกเขาไม่ใส่ใจกับคำพูดนั้น และยังแสดงฝีมือออกมาให้คนทั่วโลกเห็น
ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า จะมี นักชกแก่แต่เก๋า คนไหนบ้างที่ยังพิสูจน์ให้เห็นว่า อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข พบกับ 5 อันดับนักมวยโลก นักชกจอมเก๋าผู้พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข
จอร์จ โฟร์แมน
ก่อนที่เขาจะกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกจากธุรกิจเตาย่างบาร์บีคิวเพื่อสุขภาพ จอร์จ โฟร์แมน เคยเป็นนักมวยสากลที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เขาคือแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท 2 สมัย มาก่อน โดย บิ๊ก จอร์จ จัดว่าเป็นนักมวยประเภทหมัดหนัก
เขาสามารถไล่น็อคคู่แข่งมานักต่อนัก ตั้งแต่ปี 1969 จนถึง 1997 โดยในช่วงพีกสุด ๆ โฟรแมนทำให้คู่ชกหลายคนถึงกับขวัญผวา เป็นนักชกไร้พ่ายที่ใครๆก็กลัว แม้จะเคยพ่ายแพ้น็อคแค่ครั้งเดียวจากตลอดอาชีพต่อยอดมวยผู้ยิ่งใหญ่อย่าง มูฮัมหมัด อาลี ในไฟต์ “Rumble in the Jungle” อันโด่งดัง แต่ก็ยังประสบความสำเร็จบนเส้นทางมวยยาวนานถึง 2 ทศวรรษหลังจากไฟท์นั้น
แม้ว่าบิ๊กจอร์จจะแขวนนวมตั้งแต่อายุเพียง 28 ปี แต่เขสก็กลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งใน 10 ให้หลังด้วยวัย 38 ปี ด้วยร่างกายที่ไม่เหลือเค้านักกีฬา แน่นอนว่าหลาย ๆ คนที่เห็นก็มองเป็นเรื่องตลก และคิดว่าโฟร์แมนหมดยุคไปแล้ว แต่ปรากฎว่าโฟร์แมนเก็บชัยชนะ 24 ไฟต์รวด ซึ่งเป็นการน็อคเอ้าท์ถึง 22 ครั้ง ก่อนจะได้ขึ้นชิงแชมป์โลก 3 สถาบันกับ อีแวนเดอร์ โฮลีฟิลด์
แต่กลับเป็นฝ่ายแพ้คะแนนอย่างเอกฉันท์ไปอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก้ตามโฟร์แมนได้ขึ้นชิงแชมป์โลกอีกครั้งใน 4 ไฟต์ต่อมา แต่ นักชกจอมเก๋าผู้พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข ก็ปราชัยให้กับ ทอม มอร์ริสัน พลาดแชมป์ WBO ไปอย่างน่าเสียดาย
หนึ่งปีต่อมา โฟร์แมน ในวัย 46 ปี ได้ชิงแชมป์โลกอีกครั้ง คราวนี้เจอกับ ไมเคิล มัวเรอร์ แชมป์ IBF และ WBA วัย 27 ปี ที่ยังไม่เคยแพ้ใคร แน่นอนว่าหลายคนคงคิดว่ามัวเรอร์จะต้องป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ ผลปรากฎว่าในยกที่ 10 โฟร์แมนปล่อยหมัดทิ่มปลายคางมัวเรอร์ ส่งลงไปนอนกับพื้นเวที และกลายเป็นแชมป์โลกสมัยที่ 2 ในอาชีพ ครึ่งสถิติแชมป์โลกอายุมากที่สุด
ของพิกัดรุ่นเฮฟวี่เวทมาจนถึงปัจจุบัน ขณะที่ไฟต์สุดท้าขของเขานั้นเกิดขึ้นในปี 1997 โฟร์แมนแพ้คะแนน แชนนอน บริกก์ส ก่อนประกาศแขวนนวมในวัย 48 ปี ยุติอาชีพด้วยสถิติชกชนะ 78 แพ้ 5 ไฟต์ ซึ่งเป็นการชนะน็อกถึง 68 ไฟต์เลยทีเดียว
อาร์ชี่ มัวร์
หนึ่งใน นักมวยชาย รุ่นเก๋าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในปี 1956 เมื่อช่วงเวลานั้น มัวร์ อายุ 40 ปี เขายังเป็นที่จดจำในฐานะแชมป์โลกรุ่น ไลท์เฮฟวีเวท และครองตำแหน่งยาวนานกว่า 4 ปี หลังจากนั้น โดยปกติแล้วมัวร์มักจะขึ้นสังเวียนมาเจอกับนักชกที่ตัวใหญ่กว่าเขาในรุ่นเฮฟวี่เวท และลงมาต่อยในรุ่นไลท์เฮฟวี่เวท เมื่อต้องขึ้นป้องกันเข็มขัดแชมป์
แต่ไม่ว่าเขาจะชกในรุ่นไหน สไตล์ส่วนใหญ่ของเขาก็จะยังคงเดิมคือ การใช้ฟุตเวิร์คที่ยอดเยี่ยม ประกอบกับการป้องกันที่เหนียวแน่น กลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่พร้อมจะส่งคู่แข่งลงไปนอนบนพื้นเวทีได้ทุกเมื่อทุกเวลา
การชกครั้งสุดท้ายของมัวร์เกิดขึ้นในปี 1963 โดยเขาได้รับฉายาว่า “พังพอนเฒ่า” ในไฟท์นั้นเขาชนะน็อก ไมค์ ดิบิอาซี่ นักมวยปล้ำอาชีพที่ขึ้นชกมวยเป็นไฟต์แรก ในยกที่ 3 ก่อนที่เขาจะประกาศแขวนนวมในวัย 47 ปี
พร้อมกับ อันดับนักมวยโลก สถิติอันน่าตกตะลึง คือ ชนะ 186 ครั้ง แพ้ 23 ครั้ง และเสมอ 10 ไฟท์ โดยจากทั้งหมดนั้น เขาชนะน็อคถึง 132 ไฟท์ ถือว่าเป็นนักมวยคนหนึ่งที่มีสถิติชนะน็อคมากในประวัติศาสตร์วงการมวย เป็นรองเพียง บิลลี่ เบิร์ด เจ้าของสถิติชนะน็อก 138 ไฟต์เพียงคนเดียว
แลร์รี่ โฮล์มส์ นักชกแก่แต่เก๋า
แลร์รี่ โฮล์มส์ เจ้าของฉายา “มือสังหารแห่งอีสตัน” อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวท ถือว่าเป็น นักมวยชาย ที่มีหมัดเเย็บที่ดีที่สุดของโลก ในตอนที่ แลร์รี่ โฮล์มส์ แพ้น็อกยก 4 ต่อ ไมค์ ไทสัน เมื่อปี 1988 กูรูหลาย ๆ คนเชื่อว่า เส้นทางอาชีพของนักชกวัย 38 ปีในขณะนั้นจบลงแล้ว หลังจากก่อนหน้านั้นก็เพิ่งแพ้ ไมเคิล สปิงซ์ 2 ไฟต์ติด
แต่โฮล์มส์เลือกที่จะสู้ต่อไป ซึ่งมันกลายเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเช่นกัน โฮล์มส์เข้าใจดีว่าการชกในรุ่นเฮฟวีเวทช่วงเวลานั้นยังไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากกมายนัก ละด้วยการที่ จอร์จ โฟร์แมน ยังประสบความสำเร็จ โฮล์มส์จึงเชื่อว่าตัวเองก็ทำได้เช่นกัน โดย 3 ปีต่อมาหลังจากแพ้ไทสัน โฮล์มส์ในวัย 41 ปี กลับขึ้นสังเวียนอีกครั้งและชนะ TKO ทิม แอนเดอร์สัน ตั้งแต่ยกแรก
นับจากนั้น นักชกจอมเก๋าผู้พิสูจน์ให้เห็นว่าอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลข ก็ขึ้นสังเวียนอีก 23 ไฟต์ชนะ 20 แพ้เพียง 3 ไฟต์ ซึ่งเป็นไฟต์ชิงแชมป์โลกทั้งหมด ก่อนจะปิดฉากอาชีพหลังชนะคะแนน เอริค “บัตเตอร์บีน” เอสช์ เมื่อปี 2002 ด้วยวัย 53 ปี
โรเบร์โต้ ดูแรน
โรเบร์โต้ ดูแรน เป็นนักมวยที่มีส่วนผสมของความดุดันและพละกำลังในช่วงวัยหนุ่ม ยิ่งในช่วงจุดพีกของอาชีพ เจ้าตัวยังไล่ถลุงคู่ชกเป็นว่าเล่น และยังกลายเป็นนักมวยที่น่าหวาดหวั่นมากที่สุดคนหนึ่งในยุคนั้น แต่หลังจากพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้ว ดูแรนก็ยังคงขึ้นสังเวียนต่อไปแม้จะอายุเพิ่มมากขึ้นและสภาพร่างกายไม่ได้ดีเหมือนเดิม
เขาอาศัยสติปัญญาที่เฉียบแหลม และเชิงมวยที่ยอดเยี่ยม ในการยืนหยัดอยู่ในวงการได้แบบไม่อายใคร ในขณะที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นเขาพึ่งพากายภาพและกำลังในการชก แต่ดูแรนในวัยเก๋า หันมาอาศัยเทคนิค การกะช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม และการบุกแบบชาญฉลาด ขณะเดียวกันปฏิกิริยาตอบสนองในเชิงรับของเขายังคงเฉียบคมพอหลีกเลี่ยงอันตรายหรือลดทอนความเสียหายได้
จึงทำให้เขายืนระยะได้อย่างยาวนาน และชัยชนะไฟต์สุดท้ายในอาชีพของ ดูแรน เกิดขึ้นในปี 2000 โดยเป็นการชนะคะแนน แพทริก กูสเซ่น ก่อนจะแพ้ เฮคเตอร์ คามาโช ในปีต่อมา อันดับนักมวยโลก ซึ่งเป็นไฟต์สุดท้ายบนสังเวียน
หลังจากนั้นเจ้าตัวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรงทำให้ต้องประกาศแขวนนวมในวัย 50 ปี พร้อมกับสถิติชก 119 ไฟต์ ชนะ 103 ไฟต์ ซึ่งเป็นการชนะน็อก 70 ไฟต์ แพ้ 16 ไฟต์
เบอร์นาร์ด ฮ็อปกิ้นส์ นักชกแก่แต่เก๋า
เบอร์นาร์ด ฮ็อปกิ้นส์ ทำผลงานได้ดีตลอดอาชีพชก แม้ผ่านช่วงเวลาที่สภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุดไปแล้ว เขายังคว้าแชมป์โลกสมัยแรกในวัย 30 ปี เมื่อเขาครองเข็มขัดรุ่นมิดเดิลเวตของ IBF ในปี 1995 จากนั้นเจ้าของฉายา “เพชฌฆาต” ก็ป้องกันตำแหน่งได้ถึง 20 สมัย ใช่คุณฟังไม่ผิด เขาป้องกันแชมป์ได้ 20 สมัยจริง ๆ
ซึ่งมันกลายเป็นสถิติสูงสุดของรุ่นมิดเดิลเวท ยาวนานจนถึงปัจจุบันนี้ แฟนมวยและเซียนมวยหลายคนต่างยกให้ฮ็อปกิ้นส์ เป็นหนึ่งในนักมวยที่ดีที่สุดของประวัติศาตร์ หากเทียบปอนด์ต่อปอนด์ ชื่อของฮ็อปกิ้นส์ อาจไม่เป็นที่รู้จักนักแต่ผลงานที่น่าจดจำที่สุดของเขา เริ่มขึ้นจากตอนที่เขามีอายุ 40 ปีไปแล้ว อันดับนักมวยโลก
โดยในวัย 42 ปี ฮ็อปกิ้นส์ สามารถเอาชนะ อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ในการคว้าแชมป์ IBO และ The Ring แม้เขาจะเสียแชมป์ให้กับ โจ คัลซากี้ ในปี 2008 แต่ในเวลา 3 ปีต่อมา ฮ็อปกิ้นส์ก็อาชนะ ฌอง ปาสกาล คว้าแชมป์รุ่นไลต์ เฮฟวี่เวตของ WBC, The Ring และเป็นแชมป์สายตรงได้สำเร็จ
หลังจากนั้นฮ็อปกิ้นส์ก็ยังคงเดินหน้าบนเส้นทางสายกำปั้นอย่างน่าทึ่งโดยไม่แคร์สังขาร แม้จะเสียแชมป์ให้ แชด ดอว์สัน ใน 2 ไฟต์ต่อมา แต่ก็ไปกระชากเข็มขัดของ IBF จาก ทาโวริส คลาวด์ ได้สำเร็จในปี 2013 ก่อนจะป้องกันแชมป์ได้ 1 สมัย ตามด้วยการชนะคะแนน เบย์บุต ชูเมนอฟ ทำให้ได้ครองตำแหน่งซูเปอร์แชมป์ของ WBA และ IBO เพิ่มเติม
แต่สองไฟต์สุดท้ายในอาชีพมวยของฮ็อปกิ้นส์ ไม่ค่อยน่าจดจำเท่าไหร่ เพราะเจ้าตัวครองแชมป์ 3 สถาบัน ได้ไม่ถึง 6 เดือนก็ต้องมาแพ้ให้กับ เซอร์เก โควาเลฟ ก่อนจะมาเปิดฉากอาชีพหลังจากโดนน็อกแบบตกเวทีโดย โจ สมิธ จูเนียร์ ในเดือนธันวาคมปี 2016 ด้วยวัย 51 ปี
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : มังงะ
อ่านเพิ่มเติม => นักชกชาวยูเครน