ทำความรู้จักกับการศิลปะการต่อสู้ ท่าปล้ำจับล็อกและ ท่าซับมิชชัน (Submission)

ท่าซับมิชชัน เมื่อพูดถึง แวดวงศิลปะ การต่อสู้และการป้องกันตัว ในปัจจุบันนี้ ก็มีการคิดค้น ยุทธวิธีออกมาหลากหลาย รูปแบบอยู่เหมือนกัน ซึ่งนอกจากจะเป็น การต่อสู้ด้วยท่ายืนแล้ว การต่อสู้บนพื้น ก็เป็นอีกหนึ่งวิธี ในการต่อสู้แบบผสมผสานอีกด้วย เพราะเมื่อฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำลงไป ก็มีโอกาสจะถูกเล่นงานจนพ้ายแพ้ได้

หลาย ๆ คนคงคุ้นเคย กับกีฬาการต่อสู้ที่ใช้ หมัดต่อย หรือ การเตะ แต่ในปัจจุบันนี้ มีกีฬาการต่อสู้ ที่สามารถใช้เป็น การป้องกันตัวได้ดีเยี่ยมด้วย ในสถานการณ์จริงอย่างการซับมิชชัน (Submission) หรือปล้ำจับล็อกให้ฝ่ายตรงข้ามยอมจำนน โดยเฉพาะในการต่อสู้ แบบผสมผสานหรือ Mixed Martial Art (MMA) นักกีฬานิยมใช้เป็นอาวุธสำคัญ เพื่อพิชิตคู่ต่อสู้และก็ได้ผลลัพธ์ ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมากทีเดียว

ปล้ำจับล็อกและซับมิชชัน ท่วงท่าที่คว้าชัยชนะ ในสังเวียนต่อสู้ ไม่ใช่อาวุธสำหรับ นักกีฬาที่ตัวใหญ่ กว่าเท่านั้น แม้แต่นักกีฬา ที่มีรูปร่างเล็กก็ยังสามารถปรับใช้ได้ดี และได้ผลมาแล้ว ด้วยเทคนิคและวิธีการอันชาญฉลาด ทั้งล็อค หัก และบิด อย่างถูกวิธี จนคู่ต่อสู้ต้องยอมแพ้ เพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว กรรมการต้องยุติการแข่งขันทันที

หนึ่งในท่าต่อสู้ ที่เรามักเห็นอยู่บ่อย ๆ ในเกมภาคพื้น ก็คือการซับมิชชัน (Submission) ซึ่งในบางกรณีสามารถนำมาใช้ เมื่ออยู่ในท่ายืนได้เหมือนกัน ลักษณะของการซับมิชชันนั้น คือการล็อก หัก หรือบิดส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จนทำให้อีกฝ่ายได้รับความเจ็บปวด และทนไม่ได้จนต้องขอยอมแพ้ หรือบางกรณีอาจถึงขั้นสลบจนกรรมการ จะต้องทำการยุติการแข่งขัน

วันนี้ ultimateufa จะพาทุกท่าน มาทำความรู้จักกับท่าซับมิชชัน 5 ท่า ที่ได้รับการยอมรับว่า เป็นท่าที่อันตราย และนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายบนสังเวียน คำเตือน! ไม่ควรนำมาใช้เล่นกัน เพราะหากเพลี่ยงพล้ำ อาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตเลยทีเดียว

Rear-Naked Choke ท่าที่ทำให้คู่ต่อสู้หายใจไม่ออก

Rear Naked Choke (เรียร์ เนกเกด โช้ก) เป็นท่าซับมิชชัน ที่นิยมใช้ในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน บราซิลเลียนยิวยิตสู และยูโด เป็นท่าที่อันตรายเป็นอันดับต้น ๆ มีผลให้คู่ต่อสู้ หายใจไม่ออก ถึงกับสลบ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้

ท่าดังกล่าว จะเล่นงานคู่ต่อสู้ ทางด้านหลัง ด้วยการใช้ท่อนแขนข้างหนึ่ง สอดรัดเข้าซอกคอ ของคู่ต่อสู้ ก่อนอ้อมนำมาประสาน กับแขนหรือมืออีกข้างหนึ่ง เพื่อให้เกิดการบีบรัด โดยหวังผลในการตัด ไม่ให้เลือดไปเลี้ยงสมอง

ถ้าทำอย่างถูกวิธี และคู่ต่อสู้ไม่มีการขัดขืน ไม่เกิน 5 วินาทีก็สามารถสลบได้ แต่เมื่อปล่อย หรือคลายการบีบรัดออก ก็จะค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมาเหมือนเดิม

ผู้ใช้ท่านี้อาจเพิ่มความยากในการแก้ ด้วยการใช้ขาทั้งสองข้างอ้อมมาเกี่ยวไว้ด้านหน้าของคู่ต่อสู้ ทำให้แรงเหวี่ยงของขา ที่จะใช้ดิ้นหรือขัดขืน ยากขึ้นเป็นเท่าตัว

ซึ่งในกฏ กติกา มารยาท ของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ จะมีกรรมการคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายถึงชีวิต โดยถ้าเห็นฝ่ายที่ถูกกระทำ “Tap out” (แท็ปเอาต์ – ใช้มือตบที่อวัยวะใด ๆ ของอีกฝ่าย) เป็นสัญญาณ ว่าขอยอมแพ้ หรือหากฝ่าย ที่ถูกกระทำเริ่มไม่ขยับ หรือดิ้นรนต่อสู้ขัดขืน กรรมการก็จะรีบเข้าไปจับแยกทันที เพื่อเป็นการเซฟนักมวยนั่นเอง

Guillotine Choke เครื่องประหารชีวิต รัดเส้นเลือดด้านข้างคอ

ท่าซับมิชชัน

“Guillotine Choke (กิลโยติน โช้ก)” ถือเป็นหนึ่งในท่า ที่ผู้ถูกล็อกแทบ ไม่มีโอกาสป้องกันตัว โดยท่าซับมิชชันดังกล่าว มีที่มาจากเครื่องประหารชีวิต ในสมัยโบราณ ที่ใช้วิธีการบั่นศีรษะของนักโทษ ในประเทศฝรั่งเศส และเป็นที่นิยมในหมู่นักสู้ประเภท ยูโด และ มวยปล้ำ

ท่านี้ เป็นการใช้ท่อนแขน ในการรัดคอฝั่งตรงข้าม ในลักษณะ การรัดเส้นเลือดด้านข้างคอ หรือรัดบริเวณหลอดลมด้านหน้าคอ เพื่อยับยั้งไม่ให้ออกซิเจนไหลเวียนเข้าสู่ปอด จนถึงขั้นหมดสติ

ศีรษะของผู้ถูกรัด จะหายเข้าไปบริเวณรักแร้ ของผู้ใช้ท่านี้ จนเหมือนศีรษะหลุดออกจากบ่า นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ สำหรับท่าซับมิชชัน อันน่าสะพรึงกลัวนี้ มีน้อยรายนัก ที่จะสามารถเอาตัวรอดมาได้

นอกจากนี้ เพื่อความสมบูรณ์ ผู้ใช้ท่านี้มักจะใช้ขาทั้งสองข้างอ้อมไปรัดรอบเอวของคู่ต่อสู้ เพื่อป้องกันไม่ให้ดิ้นหลุด และผู้รัดอาจอยู่ด้านบน หรือด้านล่างก็ได้ และหากท่านี้ ถูกใช้โดยสมบูรณ์เมื่อไหร่ เพียงไม่นานคู่ต่อสู้ ก็จะต้องขอยอมแพ้ แบบไร้ทางสู้ในที่สุด

Armbar ท่าซับมิชชัน หักแขนคู่ต่อสู้

ท่าซับมิชชัน

“Armbar (อาร์มบาร์)” เป็นท่าล็อก ที่เล่นงานบริเวณแขน ของคู่ต่อสู้ และแม้ว่าจะไม่ได้อันตราย ถึงขั้นหมดสติ หรือเสียชีวิต แต่ท่าดังกล่าวถือเป็นท่าซับมิชชันซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุด โดยสาระสำคัญของ ท่าคือการโจมตีบริเวณข้อศอก ที่ธรรมชาติสร้างมาให้พับ หรืองอได้ทิศทางเดียว

ดังนั้น หากเมื่อใดก็ตาม ที่ข้อศอกถูกดัด หรือง้างไปในทิศทางตรงกันข้าม ก็มีโอกาส ที่จะให้คู่ต่อสู้ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และต้องขอยอมแพ้ ในที่สุด

ท่านี้ ไม่จำเป็นจะต้องใช้ในเกมภาคพื้นเสมอไป โดยสามารถใช้ได้กลางอากาศ หรือที่เรียกว่า “Flying Armbar (ฟลายอิงอาร์มบาร์) และถือเป็นท่าที่สวยงามที่สุดท่าหนึ่ง

อย่างไรก็ตามท่านี้ ถือว่ายังพอมีช่องว่างให้คู่ต่อสู้ สลัดหลุดออกมาได้ หรือพลิกกลับมาเล่นงาน แต่หากทำอย่างชำนาญ และรู้จุดก็สามารถทำให้ คู่ต่อสู้สิ้นลายได้ภายในไม่กี่วินาทีเช่นกัน

 

Triangle Choke ยับยั้งกระแสเลือดในการวิ่งไปเลี้ยงสมอง

ท่าซับมิชชัน

“Triangle Choke (ไทรแองเกิล โช้ก)” เป็นการใช้ช่วงขา และข้อเท้ารัดคอคู่ต่อสู่ โดยมีรากฐานมาจากยูโด และ บราซิลเลียนยิวยิตสู ท่านี้มีหลายแบบหลายวิธี  แต่ทุกวิธีคือการยับยั้งกระแสเลือดในการวิ่งไปเลี้ยงสมอง ซึ่งจะทำให้คู่ต่อสู้ เสียการทรงตัว ควบคุมตัวเองไม่ได้ และหมดสติชั่วคราวในที่สุด อาจถึงขั้นทำให้การตอบสนองของหัวใจ และหลอดเลือดผิดปกติ ไปสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว

นอกจากจะทำให้คู่ต่อสู้หมดสติแล้ว ยังสามารถล็อกแขน ผสมผสานกับ Arm Bar เพื่อป้องกันการดิ้นหลุด และหักแขนของอีกฝ่ายไปในเวลาเดียวกัน

แม้ว่าจะมีการคิดค้นการแก้ท่านี้ ด้วยการยกตัวผู้ใช้ให้ลอยขึ้นมาและ ฟาดลงพื้น แต่มันต้องใช้กำลังขา และพละกำลังทุกส่วน ของร่างกายแบบมหาศาล เลยทีเดียว และน้อยรายนัก ที่จะสามารถเอาตัวรอดจากท่าสุดโหดนี้ได้สำเร็จ

Arm Triangle หรือ อนาคอนดา โช้ก เสมือนการถูกงูรัด

ท่าซับมิชชัน

“Arm Triangle (อาร์ม ไทรแองเกิล)” หรืออีกหนึ่งชื่อเรียกว่า “Anaconda Choke (อนาคอนดา โช้ก)” เป็นท่าซับมิชชันที่ใช้ล็อกช่วงคอและหัวไหล่ไล่ไปถึงช่วงแขน ซึ่งเปรียบเสมือนการถูกงูรัด โดยช่วงแขน และไหล่ที่ถูกล็อก จะปรากฏในลักษณะสามเหลี่ยม ส่งผลถึงการไหลเวียนของเลือด เข้าสู่สมอง และจะทำให้คู่ต่อสู้หายใจไม่ออก

ท่านี้จะเป็นการใช้แขนสอดใต้รักแร้ของคู่ต่อสู้ และประสานเข้ากับมืออีกข้าง เพื่อล็อกช่วงคอและหัวไหล่ไม่ให้ดิ้นหลุด พร้อมกับใช้แรงกดด้วยการทิ้งน้ำหนักของร่างกายไปยังคู่ต่อสู้ มักนิยมใช้ในช่วงวิกฤติ ที่กำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ และเสียเปรียบ เพื่อพลิกกลับมาเล่นงานคู่ต่อสู้ได้ด้วย

ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : แทงบอลออนไลน์ , ดูอนิเมะออนไลน์

อ่านเพิ่มเติม => ปี่มวยไทย