ฉมวกเพชร ห้าพลัง ยอดมวยราชดำเนิน เรื่องราวเจ้าของสมญา “พ่อบานไม่รู้โรย”
ฉมวกเพชร ห้าพลัง เขาคือยอดมวยราชดำเนิน นักมวยที่ได้รับเสียงชื่นชม และกำลังใจจากแฟนมวยมากมาย ถือเป็นยอดมวย ที่แฟนมวยชาวได้ให้ความเชื่อถือ ในยุคนั้นเลยก็ว่าได้
จากตอนแรกที่เป็นมวยที่มีดีแค่เข่า ต่อมายิ่งชกยิ่งเก่งขึ้น จากเป็นมวยเข่า ก็ใช้พละกำลังมากขึ้น กลายเป็นมวยฝีมือ ที่มีฝีไม้จัดจ้านในย่านพระนคร กลายเป็นความภาคภูมิใจของ เวทีราชดำเนิน ไปในช่วงเวลาที่มวยแม่เหล็กส่วนใหญ่เทไปอยู่ฝั่ง เวทีลุมพินี
ซึ่งในช่วงรุ่งโรจน์ของเขา ฉมวกเพชร ได้ปราบยอดมวยจากฝั่งลุมพินีจนราบเป็นหน้ากลอง หากได้มีการจัดท็อปไฟท์ ยอดมวยราชดำเนิน คงต้องมีชื่อของ ฉมวกเพชร รวมอยู่ด้วยถึงจะสมบูรณ์
ทำไม ฉมวกเพชร ห้าพลัง ถึงได้รับการยกย่องว่าเป็น สุดยอดนักชกแห่งวิกแอร์ และเก่งกาจยืนระยะอย่างยาวนานจนได้รับฉายาว่า “พ่อบานไม่รู้โรย” วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับเขากัน
ประวัติของ ฉมวกเพชร ห้าพลัง นักมวยราชาเข็มขัด เจ้าของสมญา “พ่อบานไม่รู้โรย”
ฉมวกเพชร หรือ วิเชียร บุตรดี เกิดเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2505 เป็นคนอําเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เขามีพี่ชายคนโตเป็นนักมวยเหมือนกัน ชื่อ เคลย์น้อย รัศมีจันทร์
ฉมวกเพชร มักไปดูพี่ชายของเขาซ้อมที่ค่ายมวย ส.วรกุลชัย ของ ครูบุญเลิศ ศรีวรกุล เป็นประจำ แน่นอนว่าเจ้าตัวไม่ได้ไปดูพี่ชายซ้อมอย่างเดียว หลัง ๆ เมื่อไปถึงค่ายก็ลงมือซ้อมจนแทบไม่ได้ดูพี่ชายเลย
จนกระทั่งอายุ 12 ปีตอนนั้นเรียนชั้นประถม 5 ที่อ่าวอุดมจัดงานประจำปีมีมวยชกด้วย เผอิญว่ามวยขาด ฉมวกเพชร จึงได้ชกไฟต์แรกในชื่อ ฉมวกเพชร ส.วรกุลชัย ก่อนเอาชนะคะแนน ดาวเด่น ศ.ศักดิ์เกษม ได้ค่าตัวมา 80 บาท
คนที่ตั้งชื่อให้ ฉมวกเพชร คือ ต้อย-ดีเซลน้อย ส.วรกุลชัย หรือ ช.ธนะสุกาญจน์ ดีเซลน้อยเป็นนักมวยรุ่นพี่ที่แก่กว่าฉมวกเพชร 1 ปี แม้จะสนิทกันเหมือนเพื่อน แต่ฉมวกเพชรก็เกรงรุ่นพี่ไม่น้อย
ช่วงที่เริ่มมีชื่อเสียง ได้เข้ามาชกในกรุงเทพพร้อมเคลย์น้อย โดยมาอยู่กับ สมชาย-ศิรินันท์ ดวงประเสริฐดี ที่ค่าย ส.ศิรินันท์ ซึ่งดีเซลน้อยขอให้รับฉมวกเพชรมาอยู่ด้วย
ฉมวกเพชรในตอนนั้นน้ำหนัก 31 กิโลกรัม ซ้อมให้เจ้าของค่ายมวยชื่อดังดู แต่ก็ไม่ได้เข้าตาอะไรนัก ไฟต์แรกแบบจริงจัง ในปี 2521 เฮียกวงให้ใช้ ฉมวกเพชร ส.ธนิกุล ชนะคะแนน เริงณรงค์ สิงห์คงคา ตอนนั้นเจ้าตัวรู้ดีว่าชกไม่ประทับใจเจ้าของค่าย จึงขอไปชกสร้างกระดูกแถวขอนแก่น
พอเริ่มฟอร์มดีเขาก็กลับมาที่ค่าย ในกรุงเทพ ปี 2522 ได้เปลี่ยนมาใช้สีเสื้อแฟร์เท็กซ์ กลายเป็นดวงมวยทะลุ ถึงขั้นกลายเป็นแชมป์ หลังจากพลิกชนะคะแนน สามารถ พยัคฆ์อรุณ ในปีถัดมา ครองแชมป์พินเวต เวทีลุมพินี ที่เรียกได้ว่าเป็นแชมป์แรกในชีวิต
หลังจาก ฉมวกเพชร ครองแชมป์พินเวต เวทีลุมพินี ก็เดินหน้าล่ารางวัลจนได้เข็มขัดแชมป์มาคาดเอวนับรวมได้ 10 เส้นจาก 7 รุ่น
นอกจากนี้ ยังคว้ารางวัล นักมวยไทยอาชีพยอดเยี่ยม ของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ในปี 2528 จากผลงานการปราบ มานะศักดิ์ ส.เพลินจิต สุดยอดนักชกฝั่งลุมพินี กลายเป็นยอดมวยถ้วยพระราชทาน เรียงตามปี พ.ศ. ได้ดังนี้
– 8 สิงหาคม 2523 ชนะคะแนน สามารถ พยัคฆ์อรุณ ได้ครองแชมป์พินเวต พิกัด 102 ปอนด์ เวทีลุมพินี
– 29 ตุลาคม 2523 ชนะคะแนน เขี้ยวพิษ ชูวัฒนะ ได้ครองแชมป์มินิฟลายเวตที่ว่าง เวทีราชดำเนิน ตอนนั้นยังชกพิกัด 104 ปอนด์
– 23 ตุลาคม 2524 ชนะคะแนน น่ารัก ศิษย์ไกรสีห์ หรือ น่ารัก ศิษย์กวนอิม ในเวลาต่อมา ได้ครองแชมป์จูเนียร์ฟลายเวต พิกัด 108 ปอนด์ เวทีลุมพินี
– 22 มิถุนายน 2525 ชนะคะแนน ก้องธรณี พยัคฆ์อรุณ ได้ครองแชมป์ฟลายเวต พิกัด 112 ปอนด์ เวทีลุมพินี”
– 26 สิงหาคม 2526 ชนะคะแนน ศรศิลป์ ศิษย์เนินพยอม ได้ครองแชมป์แบนตัมเวต พิกัด 118 ปอนด์ เวทีลุมพินี”
– 22 กุมภาพันธ์ 2532 ชนะคะแนน วันพิชิต แก่นนรสิงห์ ได้ครองแชมป์จูเนียร์เฟเธอร์เวต พิกัด 122 ปอนด์ เวทีราชดำเนิน เป็นสมัยแรก
– 29 มีนาคม 2533 ชนะคะแนน แจ็ค เกียรตินิวัฒน์ ได้ครองแชมป์เฟเธอร์เวต พิกัด 126 ปอนด์ เวทีราชดำเนิน เป็นสมัยแรก
– 30 มีนาคม 2537 ชนะคะแนน ไผ่แดง เลอศักดิ์ยิม หรือ ไผ่แดง เดวี่ ได้ครองแชมป์จูเนียร์เฟเธอร์เวต พิกัด 122 ปอนด์ เวทีราชดำเนิน เป็นสมัยที่ 2
– 27 กรกฎาคม 2537 ชนะน็อก ชัยเดช เกียรติชาญสิงห์ ยก 3 ได้ครองแชมป์เฟเธอร์เวต พิกัด 126 ปอนด์ เวทีราชดำเนิน เป็นสมัยที่ 2
– 1 พฤษภาคม 2540 ชนะคะแนนเทคนิค เบนจี้ ดูรัน นักมวยฟิลิปปินส์ หลังหมดยก 7 ได้ครองแชมป์เฉพาะกาลเฟเธอร์เวต PABA รุ่นเฟเธอร์เวต ก่อนได้เลื่อนฐานะเป็นแชมป์ตัวจริงในการป้องกันเข็มขัดครั้งแรกในอีก 2 เดือนถัดมา
สิ่งที่น่าสนใจคือ เข็มขัดแชมป์ ทั้ง 6 เส้น จาก 10 เส้นที่เขาคว้ามาครองได้ ล้วนเป็นการชกจากสนามมวยเวทีราชดำเนินทั้งหมด จึงพูดได้เต็มปากว่า ฉมวกเพชร ห้าพลัง คือยอดมวยราชดำเนินตัวจริง และเป็น นักมวยที่ดีที่สุดตลอดกาล อีกคนหนึ่งของ วิกแอร์
ความน่าสนใจก็คือ เข็มขัดแชมป์ 6 เส้นจาก 10 เส้นที่คว้ามาครองได้ ล้วนเป็นการชกที่สนามมวยเวทีราชดำเนินทั้งสิ้น จึงพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ฉมวกเพชร ห้าพลัง คือยอดมวยราชดำเนินตัวจริง และเป็นนักมวยที่ดีที่สุดตลอดกาลอีกคนหนึ่งของวิกแอร์อีกด้วย
หนึ่งในนักมวยที่ใช้ชื่อค่ายมากที่สุดของเวทีราชดำเนิน
นอกจากนี้ ฉมวกเพชร ห้าพลัง ยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักมวยที่ใช้ชื่อค่ายมากที่สุดของเวทีราชดำเนิน หรืออาจจะเป็นสถิติประเทศไทยด้วยซ้ำ
ถ้ามีการรวบรวมข้อมูลอย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดยเริ่มจาก ส.วรกุลชัย, ส.ธนิกุล, แฟร์เท็กซ์, ส.ศิรินันท์, ห้าพลัง, ธ.ยืนยง, ช่อชะมวง และ สิงห์วังชา
เขายังเป็นนักมวยเงินแสนมาร่วม 20 ปี เพราะได้ครองแชมป์หลายเส้น ทำให้สามารถยืนระยะยาว เป็นยอดมวยระดับแถวหน้า ของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน เป็นที่หมายปองของโปรโมเตอร์ต่างศึก ที่จะจ้างเขาไปชกด้วยค่าตัวที่แพงกว่าปกติอีกด้วย
ศึกวันทรงชัย รายการมวยอันดับ 1 ในเวลานั้นยังเคยจ้างฉมวกเพชรไปชกจนปราบยอดมวย วันทรงชัย ซึ่งเป็นมวยแม่เหล็กของเวทีลุมพินีได้หลายต่อหลายราย
ความเก่งกาจและชื่อเสียงของ ฉมวกเพชร ดึงดูดให้แฟนมวยแห่กันเข้ามาดูมวยที่สนามได้เสมอ เป็นมวยแม่เหล็กที่ดึงดูดคลื่นมหาชนได้อย่างง่ายดาย ในยุคนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่มีมวยนัดใหญ่หรือรายการพิเศษ ก็เป็นอันต้องเรียกใช้บริการของ ฉมวกเพชร ห้าพลัง ทุกที ไม่ว่าจะฝั่งราชดำเนินหรือลุมพินี
นักมวยไทยผู้เปิดตลาดอเมริกา และตำนานแห่งราชดำเนิน
ไม่เพียงเท่านี้ อีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่ฉมวกเพชรฝากไว้ คือการควงคู่กับ ช้างเผือก เกียรติทรงฤทธิ์ เดินทางไปชกที่โรงแรม แซนด์ โฮเต็ล แอนด์ คาสิโน เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2531
รายการนี้มีการถ่ายทอดสดทั่วทวีปอเมริกาและทวีปอื่น ๆ อีกหลายประเทศ ถือเป็นนักมวยไทยกลุ่มแรกที่โกอินเตอร์อย่างเป็นทางการ ผลการชกปรากฏว่า ช้างเผือก ซึ่งโดนต่อยกรามหักในยกแรก ฟื้นกลับมาไล่เตะเจาะยางชนะน็อกในยกที่ 5 ขณะที่ ฉมวกเพชร เตะซ้ายเข้าใบหน้า ชนะน็อกแชมป์คิกบ็อกซิ่งชื่อ เฟลิเป้ การ์เซีย ยก 3 ผลพวงจากการชกทำให้คนอเมริกันรู้จักมวยไทยมากขึ้น จนทำให้มวยไทยเป็นที่นิยมมาจนถึงปัจจุบัน
ในช่วงบั้นปลายอาชีพมวย ฉมวกเพชรยังสร้างเกียรติประวัติให้เวทีราชดำเนินและตัวเองด้วยการขึ้นชกไฟต์ประวัติศาสตร์กับ สมรักษ์ คำสิงห์ หรือ พิมพ์อรัญเล็ก ศิษย์อรัญ นักมวยรุ่นน้อง
ในช่วงบั้นปลายอาชีพนักมวยไทย ฉมวกเพชรปรับสไตล์กลายมาเป็นมวยฝีมือที่ใช้สมองมากขึ้น จึงได้อีกสมญานามว่า พ่อบานไม่รู้โรย กล่าวคือ ถึงจะมีวัยเข้าเลข 3 แต่ใครก็เอาชนะเขายาก
ฉมวกเพชร ห้าพลัง เป็นยอดมวย ที่หาได้ยากในเมืองไทย จากเดิมที่เป็นมวยเข่าใช้แต่พละกำลัง พอเจอคู่ต่อสู้เก่ง ๆ เขาก็ปรับวิธีการชกมาเป็นมวยเข่าที่มีแบบแผน ใช้สมองเติมเข้าไปในความแข็งแกร่งจนกลายเป็นส่วนผสมที่ลงตัว นั่นคือกลายเป็นมวยเข่าที่ไม่ใช้แรงพร่ำเพรื่อ จนได้ฉายาว่า ขุนเข่าคอมพิวเตอร์
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของมวยจาก : ดูบอล , แทงบอลโลก
อ่านเพิ่มเติม => ประวัติ สินสมุทร กลิ่นมี